“สุริยะ” เป็นปลื้ม วีริศ ผ่านด่านเข้ามานั่งตำแหน่ง ”ผู้ว่าฯรถไฟ“ คนใหม่ มั่นใจ วีริศ มีประสบการณ์การบริหารจากกนอ. จะนำพาองค์กร ทรัพยากร สมบัติเจ้าคุณปู่ สร้างมูลค่าเพิ่มให้รถไฟไทย ช่วยลดการขาดทุน
ด้านประธานบอร์ด ลั่น! คาดเซ็นสัญญากับผู้ว่า รฟท.คนใหม่ ในเดือน ก.ย.นี้ พร้อมอนุมัติสร้างรถไฟไทย-จีน เฟส 2 โคราช-หนองคาย
นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยภายหลังการประชุมบอร์ด รฟท.ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบนายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เข้าดำรงตำแหน่งผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) คนใหม่
ซึ่งเป็นไปตามที่คณะกรรมการสรรหาทั้ง 5 ท่านได้นำเสนอในที่ประชุม บอร์ด รฟท.โดยขั้นตอนหลังจากนี้ จะเป็นการเจรจาต่อรองผลตอบแทนกับบุคคลที่จะได้รับการเสนอชื่อ หากได้ข้อยุติ จะเสนอสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กระทรวงการคลัง เห็นชอบ
จากนั้น รฟท.จะรายงานผลไปยังกระทรวงคมนาคม เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่ออนุมัติต่อไป เบื้องต้นคาดว่า จะสามารถเซ็นสัญญากับ ผู้ว่า รฟท.คนใหม่ได้ภายในเดือน ก.ย.นี้
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว. คมนาคม เปิดเผยว่า จากกรณีที่ บอร์ด การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้มีมติอนุมัติให้ นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เข้ามาดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าการรถไฟคนใหม่ แทนนายนิรุฒ มณีพันธ์ ที่ครบวาระไปแล้วเมื่อวันที่ 24 เม.ย. 2567 ที่ผ่านมา
ตามที่คณะกรรมการสรรหาฯ เสนอนั้น ในเรื่องดังกล่าว ถือเป็นการดำเนินการ ตามกระบวนการของ รฟท. และมั่นใจว่า คณะกรรมการสรรหาได้มีการสรรหา อย่างรอบคอบและละเอียด ก่อนเสนอมายัง บอร์ด รฟท.แล้ว
ทั้งนี้ หากจะพิจารณาจากคุณสมบัติ ที่นายวีริศ เคยดำรงตำแหน่งมาก็จะพบว่า ได้ผ่านงานที่หลากหลายและมีการพัฒนาที่ดิน เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยเฉพาะการนิคมอุตสาหกรรมมาแล้ว
ดังนั้น หากจะมาทำงานที่ รฟท. ก็คงไม่ต้องปรับตัวอะไรมาก เพราะรถไฟก็มีที่ดิน มีอสังหาริมทรัพย์จำนวนมาก ที่รอการพัฒนา และ ผู้ว่า กนอ. ก็มีประสบการณ์ในการพัฒนาที่ดินและอสังหาริมทรัพย์จำนวนมากมาแล้ว
“เชื่อว่า จะสามารถเข้ามาสร้างมูลค่าเพิ่ม ให้กับองค์กรรถไฟได้ไม่ยาก และเมื่อสร้างรายได้เข้ามา ก็จะทำให้ รฟท. ลดการขาดทุนจากการบริหารองค์กรได้”
ด้านนายอนันต์ โพธิ์นิ่มแดง รองผู้ว่าการ รฟท. กล่าวว่า ที่ประชุมบอร์ด รฟท. มีมติเห็นชอบโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย และรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพฯ-หนองคาย ระยะ (เฟส) ที่ 2 ช่วง นครราชสีมา-หนองคาย ระยะทาง 357.12 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน 3.41 แสนล้านบาท หลังจากนี้จะเสนอกระทรวงคมนาคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คาดว่าจะเสนอที่ประชุมครม. พิจารณาได้ประมาณเดือน ม.ค.68
สำหรับกรอบเวลาการดำเนินโครงการฯ เบื้องต้นคาดว่าจะสามารถเปิดประกวดราคาหาผู้รับจ้างประมาณต้นเดือนก.พ.68 เริ่มก่อสร้างประมาณปี 68 ใช้เวลาก่อสร้าง 72 เดือน หรือประมาณ 6 ปี คาดว่าจะแล้วเสร็จ และเปิดให้บริการได้ประมาณปี 74 อย่างไรก็ตามเรื่องสัญญางานก่อสร้างโครงการฯ ยังไม่ได้ข้อสรุป ที่ประชุมได้มอบให้ รฟท. พิจารณาอย่างละเอียดอีกครั้ง
โดยเฉพาะการแบ่งพื้นที่ และจุดเวนคืนแต่ละสัญญาอย่าให้มีปัญหา ส่วนแนวโน้มจะลดลงจาก 11 สัญญาที่เสนอบอร์ด รฟท. พิจารณาก่อนหน้านี้หรือไม่ ยังมีเวลาพิจารณา เมื่อได้ข้อสรุปแล้วให้ รฟท. แจ้งบอร์ด รฟท. เพื่อรับทราบอีกครั้ง โดยเรื่องนี้ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการเสนอโครงการฯ เข้า ครม.
นายอนันต์ กล่าวอีกว่า รฟท. สามารถเสนอโครงการฯ ขออนุมัติ ครม. ได้เลย ส่วนรายละเอียดของสัญญาจะมากำหนดอีกครั้งในขั้นตอนการจัดทำร่างเอกสารการประกวดราคา (ทีโออาร์) ขณะที่ เรื่องการประมูลเดินรถไฟไฮสปีดฯตลอดเส้นทาง กรุงเทพฯ-หนองคาย
ในรูปแบบเอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (PPP) ยังไม่ได้มีการพิจารณาในที่ประชุม ซึ่งเรื่องนี้ต้องมีการศึกษารายละเอียดก่อน โดยการเห็นชอบโครงการฯ สำหรับการเสนอที่ประชุมในครั้งนี้ เป็นเพียงกรอบดำเนินงานในภาพรวม เพื่อขออนุมัติโครงการฯ ก่อนมาศึกษารายละเอียดต่อไป
นายอนันต์ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบอนุมัติจ้างกลุ่มบริษัท เอพซิลอน จำกัด ประกอบด้วย 7 รายได้แก่ บริษัท เอพซิลอน จำกัด เป็นบริษัทผู้นำกลุ่ม (Lead Firm), บริษัท เอ็มเอชพีเอ็ม จำกัด, บริษัท เอเชี่ยน เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแต้นส์ จำกัด, บริษัท พีเอสเค คอนซัลแทนส์ จำกัด
บริษัท โชติจินดา คอนซัลแตนท์ จำกัด, บริษัท ดีเคด คอนซัลแตนท์ จำกัด และบริษัท ยูไนเต็ด แอนนาลิสต์ แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแตนท์ จำกัด เป็นที่ปรึกษางานออกแบบรายละเอียดโครงการก่อสร้าง สะพานมิตรภาพไทย-ลาวหนองคาย-เวียงจันทร์ แห่งที่ 2 จังหวัดหนองคาย ค่าจ้าง 119,946,221.04 บาท ระยะเวลาศึกษา 12 เดือน คาดว่าจะลงนามสัญญาจ้างได้ไม่เกินเดือน ก.ย.67
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : คมนาคมเร่งสรรหาฯผู้ว่า “รฟม.รฟท.”คนใหม่
