เกษตรฯ ขีดเส้น 7 วันสอบที่มา “ปลาหมอคางดำ” ระบาดหนัก



เกษตรฯ สั่งกรมประมงเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงการแพร่ระบาดของ “ปลาหมอคางดำ” ภายใน 7 วัน ด้าน“ธรรมนัส” ลงพื้นที่มหาชัยขอดูปัญหาวันจันทร์นี้

  • “ธรรมนัส” ลงพื้นที่มหาชัย
  • ขอดูปัญหาวันจันทร์นี้

วันที่ 20 ก.ค. 2567 นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ “ปลาหมอคางดำ” ในพื้นที่หลายจังหวัด โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เร่งขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วนรอบด้าน

ซึ่งในเบื้องต้นที่ประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ ครั้งที่ 2/2567 มีมติเห็นชอบ (ร่าง) แผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ พ.ศ. 2567 – 2568 ภายใต้กรอบ 5 มาตรการ 12 กิจกรรม ระยะเวลาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2567 ถึง เดือนกันยายน 2568

อาทิ มาตรการการควบคุมและกำจัดปลาหมอสีคางดำในแหล่งน้ำทุกแห่งที่พบการแพร่ระบาด โดยเบื้องต้น กรมประมง เสนอแผนใช้งบประมาณไป 181 ล้านบาท แต่ให้กลับมาทบทวนหาแนวทางที่จะเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งบประมาณ

และสั่งการเร่งด่วนให้เร่งจัดจุดรับซื้อ ปลาหมอสีคางดำ ในพื้นที่จังหวัดต่าง ๆ ในราคา 15 บาท/กก.

โดยใช้เงินจาก กองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง ในระหว่างที่รอของบฯ กลางไปก่อน เพื่อเพิ่มแรงจูงใจให้กับประชาชนให้มีส่วนร่วมควบคุม และกำจัดปลาหมอสีคางดำในแหล่งน้ำทุกแห่งที่พบและเริ่มเปิดจุดรับซื้อในวันที่ 22 กรกฎาคมเป็นต้นไป

  • ปล่อยปลาผู้ล่ากำจัด

มาตรการการกำจัดปลาหมอสีคางดำในแหล่งน้ำธรรมชาติ ด้วยการปล่อยปลาผู้ล่า เช่น ปลากะพงขาว ปลาอีกง หรือปลาผู้ล่าชนิดอื่น

ขณะนี้มีการปล่อยปลาผู้ล่าไปแล้วกว่า 226,000 ตัว ลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติใน 7 จังหวัด มี กทม. สมุทรสาคร สมุทรสงคราม สมุทรปราการ เพชรบุรี ราชบุรี สงขลา

มาตรการนำปลาหมอสีคางดำ ที่กำจัดไปใช้ประโยชน์ เช่น ทำปลาป่น โดย กรมประมง ได้ประสาน สมาคมผู้ผลิตปลาป่นไทย ในพื้นที่สมุทรสาคร

จำหน่ายให้กับโรงงานปลาป่น 2 แห่ง ได้แก่ บริษัท ศิริแสงอารำพี จำกัด ราคากิโลกรัมละ 10 บาท ได้รับการจัดสรรโควตา 500,000 กิโลกรัม (500 ตัน) จำหน่ายไปแล้ว 491,687 กิโลกรัม คิดเป็นมูลค่า 4,916,870 บาท

และบริษัท อุตสาหกรรมปลาป่นท่าจีน จำกัด รับซื้อราคากิโลกรัมละ 7 บาท แบบไม่จำกัดโควตา เพื่อผลิตปลาป่น 510,000 กิโลกรัม มูลค่า 5,022,000 บาท และยังไม่รวมการจัดซื้อเพื่อทำน้ำหมักชีวภาพของภาครัฐและเอกชนที่รับซื้อไปเป็นปลาเหยื่อ

  • เฝ้าระวังการแพร่ปลาหมอคางดำ

นอกจากนี้ ยังเตรียมมาตรการการควบคุมและกำจัดปลาหมอคางดำ โดยการปล่อยปลาผู้ล่าอย่างต่อเนื่อง พร้อมนำปลาที่กำจัดได้ไปใช้ประโยชน์ รวมถึงสำรวจและเฝ้าระวังการแพร่กระจายของปลาหมอคางดำในพื้นที่ที่ยังไม่พบการแพร่ระบาด

ซึ่งเป็นไปตามข้อสั่งการของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร และสหกรณ์ และนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันบูรณาการแก้ปัญหาดังกล่าว

รวมทั้งตรวจสอบสาเหตุการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกร และประชาชนอย่างเร่งด่วน และเตรียมมาตรการแก้ไขปัญหาในระยะยาวต่อไป

  • มาตรการระยะยาว

ส่วนมาตรการในระยะยาว การกำจัดปลาหมอสีคางดำนั้น ขณะนี้ กรมประมง ได้นำโครงการวิจัยการเหนี่ยวนำชุดโครโมโซม 4n ในปลาหมอสีคางดำ โดยการศึกษาสร้างประชากรปลาหมอคางดำพิเศษที่มีชุดโครโมโซม 4 ชุด (4n)

จากนั้นจะปล่อยลงแหล่งน้ำเพื่อให้ไปผสมพันธุ์กับปลาหมอสีคางดำปกติที่มีชุดโครโมโซม 2 ชุด (2n) จะทำให้เกิดลูกปลาหมอคางดำที่มีชุดโครโมโซม 3 ชุด (3n) ทำให้ปลาหมอสีคางดำเป็นหมัน

เบื้องต้น การศึกษาจะทดลองในบ่อทดลองเลียนแบบธรรมชาติ ในศูนย์วิจัยและพัฒนาพันธุกรรมสัตว์น้ำเพชรบุรี และจะทยอยปล่อยอย่างน้อย 250,000 ตัว ภายในเวลา 15 เดือน (ก.ค. 2567-ก.ย. 2568)

ทำให้คาดว่า จะเริ่มปล่อยพันธุ์ปลาได้ช้าสุดเดือนธันวาคม 2567 อย่างน้อย 50,000 ตัว โดยคาดว่าจะใช้เวลาดำเนินการ 3 ปี

  • ตั้งคณะทำงานตรวจสอบ

ทั้งนี้กระทรวงเกษตรฯ สั่งการให้กรมประมงตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการนำเข้าปลาหมอคางดำที่ผ่านมาและสาเหตุที่ทำให้เกิดการแพร่ระบาดอย่างรุนแรง

โดยให้รายงานผลการตรวจสอบเพื่อนำเรียนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ทราบภายใน 7 วัน และเตรียมมาตรการแก้ไขปัญหาในระยะกลาง ระยะยาว

ซึ่งขณะนี้ นอกจากการจัดทำ (ร่าง) แผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ พ.ศ. 2567 – 2568 แล้ว ในวันจันทร์ที่ 22 กรกฎาคม นี้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะเดินทางลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมจุดรับซื้อปลาหมอคางดำ ณ จุดนี้

  • เจอจำคุก 2 ปีปรับ 2 ล้าน

ด้านนายเผดิม รอดอินทร์ ประมงจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่าด้วยในขณะจังหวัดสมุทรสาครนี้ได้ประสบปัญหาการรุกรานของ ปลาหมอคางดำ ปลาชนิดนี้สามารถปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมในประเทศ

ทำให้เจริญเติบโต และแพร่ขยายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ สร้างความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและชาวประมง

ทั้งนี้ กระทรวงเกตรและสหกรณ์ ได้ออกประกาศเรื่องกำหนดชนิดสัตว์น้ำที่ห้ามเพาะเลี้ยงในราชอาณาจักร พ.ศ.2564 ห้ามเพาะเลี้ยงปลาหมอคางดำหากผู้ใดฝ่าฝืนทำการเพาะเลี้ยงปลาหมอคางดำ จะถูกดำเนินคดีตามมาตรา 144 แห่งพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558

ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 ล้านบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และหากนำไปปล่อยในที่จับสัตว์น้ำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปีปรับไม่เกิน 2 ล้านบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

ซึ่งกรมประมงอยู่ระหว่างดำเนินการควบคุมกำจัดไม่ให้ปลาชนิดนี้ แพร่ขยายพันธุ์ และเป็นการลดผลกระทบต่อระบบนิวศ และลดการสร้างความเดือดร้อนต่อเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและชาวประมง

ดังนั้นจึงขอประชาสัมพันธ์ต่อพี่น้องประชาชนห้ามมิให้เพาะเลี้ยง และนำปลาหมอคางดำไปปล่อยในแหล่งน้ำอย่างเด็ดขาด

และหากพบเจอให้แจ้งสำนักงานประมงจังหวัดหรือสำนักงานประมงอำเภอในเขตท้องที่ทุกแห่ง และหากพบเห็นปลาหมอคางดำในแหล่งน้ำธรรมชาติขอความร่วมมือให้กำจัดออกจากแหล่งน้ำนั้นด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: นายกฯ สั่งการแก้ปัญหา การแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ อย่างเร่งด่วน
: กรมประมง