“พิธา”วิเคราะห์ผลงานรัฐบาลเศรษฐา 100 วันผ่านกรอบ 5 คิด – คิดดี ทำได้,คิดไป ทำไป, คิดสั้น ไม่คิดยาว,คิดใหญ่ ทำเล็ก และคิดอย่างทำอย่าง
- ชื่นชมกระทรวงการต่างประเทศตั้งทีมเจรจาช่วยตัวประกันทำได้ดี
- คาดหวังปีหน้า รัฐบาลมีโรดแมป 1 ปีในการทำงานที่ชัดเจน
- มั่นใจ 100% รอดคดีถือหุ้นสื่อ เผยมีหลักฐานใหม่
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลง “วาระ 100 วัน วิเคราะห์ผลงานรัฐบาลเศรษฐา” โดยระบุว่า ในเชิงรัฐศาสตร์ 100 วันแรก เป็นช่วงเวลาสำคัญมาก ในเรื่องการเมืองไม่มีช่วงเวลาโหมโรง หรือ ฮันนีมูน 100 วันแรกของรัฐบาลมีความสำคัญ 3 ประการ คือ 1.การแสดงถึงความมุ่งมั่นในการรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชนก่อนที่จะมาเป็นรัฐบาล 2.การมีโรดแมปในการบริหารการตามงาน สั่งงานของรัฐบาล และ 3.การบริหารความคาดหวัง บริหารความเชื่อมั่นของประชาชน และนักลงทุนจากต่างประเทศ โดยเข้าใจดีว่ารัฐบาลมีข้อจำกัดเรื่องเวลา และงบประมาณแผ่นดิน จึงจำเป็นต้องมีโรดแมป และ วาระ100 วัน
นายพิธากล่าวว่า จะวิเคราะห์ผลงานของรัฐบาล 100 วัน ด้วยกรอบ 5 คิด ประกอบด้วย
- คิดดี ทำได้ ได้แก่ การช่วยตัวประกันไทยในอิสราเอล การฉีดวัคซีนHPV การแก้หนี้ในระบบ หนี้นอกระบบ และการพักหนี้
- คิดไป ทำไป ได้แก่ เงินดิจิทัลวอลเล็ต เงินเดือนข้าราชการ โครงการแลนด์บริดจ์
- คิดสั้น(ยัง) ไม่คิดยาว ได้แก่ ค่าไฟ ค่าเดินทาง และรถไฟฟ้า 20 บาท ตลอดสาย
- คิดใหญ่ ทำเล็ก ได้แก่ ซอฟต์พาวเวอร์ วีซ่าฟรี สปก. และค่าแรง
- คิดอย่าง ทำอย่าง ได้แก่ ร่างรัฐธรรมนูญ ปฏิรูปกองทัพ
สำหรับคิดดี ทำได้นั้น คิดว่าประชาชนเห็นตรงกันว่า การช่วยเหลือแรงงานไทยที่เป็นตัวประกันจากสงครามอิสราเอลฮามาส รัฐบาลทำได้ดี ต้องชื่นชมรัฐบาล และขอบคุณกระทรวงการต่างประเทศที่ตั้งทีมเจรจา และทีมของรัฐสภา ทำให้ 23 ตัวประกันได้รับการปล่อยตัว และมีการเยียวยา และการฉีดวัคซีนมะเร็งปากมดลูก HPV กว่า 1 ล้านโดส รวมถึง การจัดการหนี้สินทั้งในระบบและนอกระบบที่นายกรัฐมนตรีแถลง 2 ครั้ง คิดว่ารัฐบาลเข้าใจว่าปัญหาคืออะไร
คิดไป ทำไป รัฐบาลได้ปรับเปลี่ยนไปมา สำหรับโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต ทั้งเรื่องที่มาของเงิน เทคโนโลยีที่ใช้ ผู้ที่จะได้รับผลประโยชน์ ปรับไปมาอย่างน้อย 4 ครั้ง เรื่องเงินเดือนข้าราชการ แลนด์บริดจ์
คิดสั้น ไม่คิดยาว เรื่องเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายของประชาชน ทั้งค่าไฟ ค่าพลังงาน ค่าคมนาคม รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย
คิดสั้น ไม่คิดยาว คือเรื่องการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เช่น ซอฟต์พาวเวอร์ วีซาฟรี การลดความเหลื่อมล้ำของประชาชนในประเทศ ทั้งเรื่องสปก. และค่าแรง ที่เห็นนายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการไปแล้ว ได้ตัวเลขที่ไม่ควรจะเป็นตามที่สัญญากับประชาชนไว้ นายกรัฐมนตรีก็แสดงออกถึงความไม่พอใจ เช่นเรื่องค่าเมื่อสัปดาห์ก่อน
คิดอย่าง ทำอย่าง ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการเมือง ทั้งเรื่องการร่างรัฐธรรมนูญ การทำประชามติ ที่มาของสสร.ที่มาจากการเลือกตั้ง การปฏิรูปกองทัพ การกระทำตอนนี้ของพรรคเพื่อไทยตรงข้ามกับที่คิดไว้
ทั้งนี้คาดหวังว่า การบริหารงานในปีหน้าของรัฐบาล ต้องการเห็นโรดแมป 1 ปีของรัฐบาล มีแผนในการทำงานที่ชัดเจน ประชาชนติดตามได้ มีกระบวนการทำงานและระยะเวลาที่ชัดเจน จะช่วยเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมาได้ ถ้าจะให้คะแนนผลงานรัฐบาล 100 วัน คงยากเพราะไม่มีแผนงานและตัวชี้วัดที่ชัดเจน ถ้าประเมินการทำงาน จะให้ผ่านบ้างไม่ผ่านบ้าง มีบางเรื่องต้องพัฒนา และหวังว่ารัฐบาลจะรับฟังเสียงของประชาชน ต้องทำงานแบบมีโรดแมปได้แล้ว
นายพิธากล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีอีกหลายเรื่องที่รัฐบาลยังไม่ได้คิด หรืออาจจะคิดแล้วแต่ยังไม่ได้สื่อสาร ได้แก่เรื่องการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำ ปฏิรูปการศึกษา สังคมสูงวัย ภัยแล้ง ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมาก หวังว่าจะได้เห็นในต้นปีหน้า
สำหรับการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลของฝ่ายค้านนั้น คาดว่าในสมัยเปิดประชุมสภาครั้งหน้าจะยื่นได้ หลังเรื่องสำคัญคือพรบ.งบประมาณ ถ้าไม่มีรายละเอียด นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล หัวหน้าฝ่ายค้าน คงยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจตามมาตรา 151 ในไตรมาสที่1 หรือไตรมาสที่2 ปี2567 ขึ้นกับผลการชี้แจงพรบ.งบประมาณของรัฐบาล และเรื่องการทำงานที่หากมีการทุจริต ถ้ามีหลักฐานชัดเจนฝ่ายค้านก็ยื่นอภิปรายได้
เมื่อถามถึง การไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญในคดีถือหุ้นสื่อวันที่ 20 ธ.ค.นี้ นายพิธากล่าวว่า มั่นใจ 100% ว่าจะรอดคดี ไม่ถูกลงโทษ ได้เตรียมพร้อมให้การไต่สวน และตนเองมีหลักฐานใหม่เรื่องเป็นผู้จัดการมรดกที่ไม่เคยเปิดเผยมาก่อน และกสทช. ได้ตอบชัดเจนว่าไม่มีใบอนุญาตการทำสื่อของไอทีวีมาแล้ว
