

ททท.นำอีสาน 20 จังหวัด จัดเที่ยวงานเคาท์ดาวน์ 3 ไฮไลต์ 5 เส้นทางมงคล ชูธีม “อีสานไปไสกะแซ่บ” นำร้านถิ่นชื่อดังผนวกร้านมิชลินนำทาง “อาหารอีสานสู่ครัวโลก” ปี’67 ตั้งเป้าโกยกว่า 30 ล้านคน-ครั้ง เจาะนักเดินทางเริ่มทำงานกับผู้สูงวัยชื่นชอบทัวร์ธรรมชาติและแดนธรรม
- เที่ยวเคาท์ดาวน์อีสานจัดเต็ม 5 เส้นทาง ปลุกกระแส สายบุญ สายมู สายธรรมชาติ ร่วมรับตะวันปีใหม่
- รุกขาย “โคราช/ขอนแก่น/ร้อยเอ็ด”เด็ดกว่า “มูให้ปัง”ที่อุดรธานี “ศรัทธาแห่งดวงดาว”ที่มหาสารคาม “3 กลุ่มสนุก” นครพนม/มุกดาหาร/สกลนคร
- ต่อยอดอาหารนำทางขยายรายได้ท่องเที่ยวเมืองหลัก เมืองรอง ทั่วไทย
นายอรรถพล วรรณกิจ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ได้วางกลยุทธ์ทำตลาดการท่องเที่ยวอีสาน 20 จังหวัด ปีงบประมาณ 2567 ภายใต้ธีม “อีสานไปไสกะแซ่บ” คัดเลือกนำเสนออาหารเป็นสินค้านำทางนักท่องเที่ยวกระแสหลักเพื่อกระตุ้นค่าใช้จ่ายเพิ่มจากนักท่องเที่ยว ด้วย“อาหารบวกประสบการณ์” โดยใช้ “มิชลิน” บิ๊บกูมองร์ ตอนนี้ในอีสานมีร้านอาหารได้มิชลินสตาร์ 4 จังหวัด 33 ร้านอาหารควบคู่กับการเพิ่มคุณค่าด้วยการพัฒนาวัตถุดิบท้องถิ่นทั้งการปลูก การปรุง สามารถเป็นสินค้าส่งออกต่างประเทศได้ด้วย เช่น ปลาร้า เครื่องปรุงอาหารเพื่อยกระดับ “อาหารอีสานสู่ครัวโลก”
ปี 2567 ททท.ตั้งเป้าหมายตลาดภาพใหญ่ตลาดในประเทศจะต้องสร้างรายได้ 1.08 ล้านล้านบาท เพิ่ม 35 % จากจำนวนนักท่องเที่ยว 200 ล้านคน-ครั้ง ในส่วนของ “ภูมิภาคภาคอีสาน” ต้องทำห้ได้กว่า 38 ล้านคน ตอนนี้เล็ง 2 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มแรก คนวัยเริ่มเข้าทำงานหรือ first jobber เมื่อแบ่งเงินส่วนหนึ่งให้พ่อแม่แล้วก็จะนำอีกส่วนหนึ่งใช้เดินทางท่องเที่ยว กลุ่มนี้ในอีสานมีส่วนแบ่งตลาดเกือบ 20 ล้านคน กลุ่มที่ 2 ผู้สูงวัย Active Senior คนเกษียณแล้วออกเดินทางท่องเที่ยวเลือกมาอีสานอีกกว่า 70% ทั้งจากกรุงเทพฯ ภาคกลาง และจังหวัดที่มีเที่ยวบินข้ามภาคอย่าง ภูเก็ต เชียงใหม่

ดังนั้น ททท.ภูมิภาคภาคอีสานจีงวางแผนกระตุ้นการท่องเที่ยวแบบประหยัดค่าใช้จ่าย โดยจะชูจุดขาย “สุขทันทีที่อีสาน” ต้อนรับเทศกาลเคาท์ดาวน์ส่งท้ายปีเก่า 2566 ต้อนรับปีใหม่ 2567 มีเส้นทางมานำเสนอ 3 ไฮไลต์ กับ 5 เส้นทางได้แก่
ไฮไลต์ที่ 1 ท่องเที่ยวเมืองหลัก มี 2 จังหวัด คือ นครราชสีมา กับขอนแก่น ซึ่งเป็นพื้นที่มีโรงแรมขนาดใหญ่รองรับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี เตรียมจัดเคาท์ดาวน์ทั้งสองเมืองอย่างยิ่งใหญ่หน้าศาลากลางจังหวัด ไฮไลต์ที่ 2 เทศกาลแห่ดาวคริสต์มาส ชุมชนท่าแร่ จ.สกลนคร ชาวชุมชนมีความพร้อมใจกันประดับไฟให้เป็นดวงดาวสายงาม ไฮไลต์ที่ 3 “ร้อยเอ็ด” จะจุดพลุหลังหอโหวตนับพันดวง จุดที่ 3 อุบลราชธานี ชวนไปรับตะวันก่อนใครในสยาม
รวมถึงแนะนำทริปท่องเที่ยวอีสาน ในแหล่งท่องเที่ยวคุณภาพมีคุณค่าและความหมาย มีเรื่องราวน่าสนใจ อีก 5 เส้นทาง ได้แก่

เส้นทางที่ 1 อุดรธานี-บึงกาฬ 3 วัน 2 คืน มูให้เฮง เที่ยวให้ปัง รับพลังแบบรักษ์โลก สามารถบินตรงลงที่อุดรธานี หรือขับรถเที่ยวติดแม่น้ำ แล้วนำไปเที่ยวดินแดนสายมูแห่งใหม่ พ่อปู่เกศแก้วนาคาธิบดี และแม่ย่าละอองดาว ในบริเวณที่มีพญานาคปกปักรักษาบริเวณวัดป่าดงหนองตาล ต.นาข่า มีร้านมิชลิน VT แหนมเนือง หรือ ร้านอาหารมัจฉาพาสุขตำนานความอร่อยกว่า 40 ปี ลองไปชมพิพิธภัณฑ์เมืองอุดร ความเป็นไปและเป็นมาภายใต้อาคารโคโลเนียลที่มีความคลาสสิกอย่างยิ่ง พร้อมกับอัตลักษณ์เมืองอุดรด้วยการไปสักการะองค์ศรีสุขเนตร ได้นำพระพิฆเนศมาผสมผสานกับหลวงปู่ศรีสุทโธ โดยมีทะเลบัวแดง กับเที่ยวบ้านเชียง มาผสมผสานอย่างลงตัว
รวมถึงจะนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวใหม่ “พุทธอุทยานวัดป่าดงไร่วัดสันติวนาราม” มีสระน้ำขนาดใหญ่ พร้อมอุโบสถตั้งอยู่อย่างสวยงามกลางน้ำ ต่อเนื่องถึงป่าคำชะโนด
เส้นทางที่ 2 นำเสนอร้านมิชลิน “บ้านเฮงมหาสารคาม” ตื่นตาตื่นใจกับวัดป่าวังน้ำเย็น 1 ใน 25 Unseen New Chapters ของไทย ส่วน “ขอนแก่น” มีคาเฟ่ในตัวเมืองตกแต่งสวยงามนับ 100 แห่ง กับเดินทางไปเรียนรู้อุทยานแห่งชาติภูเวียง มีไฮไลต์ท้าทายคือ “ตลุยโซนหูซ้ายมิกกี้เมาส์”
เส้นทางที่ 3 สำรวจแหล่งเลี้ยงเนื้อวากิว พาไปร้าน “ประสิทธิ์โภชนา” ดูการย่างเนื้อร้านสุพรรณิกา ชมโคขุนเมืองพลเลี้ยงด้วยข้าวหอมมะลิทำให้เนื้อนุ่มละมุนอย่างยิ่ง ชมฟาร์มอรุณสุภา

เส้นทางที่ 4 กลุ่มสนุก 3 วัน 2 คืน “นครพนม-มุกดาหาร-สกลนคร” ต้องห้ามพลาดไหว้พระธาตุเชิงชุมวรวิหารสกลนคร มีร้านเด็ดสะบันงา ต้นตำรับ “แกงหวาย” หนึ่งในอาหารถิ่นที่ได้รับการเชิดชูจากกระทรวงวัฒนธรรมเป็นเมนูที่หลายไปแล้วนำกลับมาใหม่ ต่อด้วย “วัดผาแด่น” สักการะองค์ปูนปั้นพญานาคขนาดใหญ่บนภาพแกะสลักหน้าผาหินตระการตา พร้อมกับชมครามสกล สามารถทำกิจกรรม D.I.Y.เป็นของตนเองนำกลับบ้านได้
เส้นทางที่ 5 เที่ยวชุมชนกับคนภาคอีสานตอนล่าง ที่มูลนิธินักรบไทย ไทรทองเทพนิมิตร จ.นครราชสีมา ททท.ได้นำกลุ่มตัวอย่างสูงวัยเดินทางไปแล้ว ชมการก่อสร้างอนุสรณ์วีรกษัตริย์ 3 พระองค์ ได้แก่ พระนเรศวรมหาราช พระเอกาทศรถ พระนางสุพรรณกัลยา ทางผู้สร้างสถานที่แห่งนี้มีความตั้งใจพร้อมกับของสะสมหามูลค่าไม่ได้มีให้ชมมากมาย เดินทางต่อไปชม “สนามช้างอารีน่า” จ.บุรีรัมย์ สนามใหญ่โตโอ่อ่าสามารถดึงอีเวนต์ขนาดใหญ่มาจัดในแต่ละปีเป็นจำนวนมาก
จากนั้นก็ไป “หมู่บ้านตาลอง” จ.สุรินทร์ ดูการทอผ้าไหมวิถีดั้งเดิม แล้วกลับมาโคราช แนะนำไปสร้างประสบการณ์แหล่งท่องเที่ยวใหม่ “ชุมชนวัดเขาจันทร์งาม” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแหล่งหินตัดที่นำมาสร้างปราสาทต่างๆ รวมทั้งมีภาพเขียนโบราณอายุกว่า 4,000 ปี บ่งบอกความเป็นไปของมนุษย์ปัจจุบัน เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาได้ทุกวันตลอด 365 วัน
เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza, www.facebook.com/penroongyaisamsaen