ดาวโจนส์ร่วงต่อกว่า 90 จุด จับตาทิศทางดอกเบี้ยเฟด



.ตลาดหุ้นสหรัฐแกว่งตัวในแดนลบ จับตาถ้อยแถลง ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

.นักลงทุนขายหุ้นลดความเสี่ยง มองเศรษฐกิจดี -ตลาดแรงงานแข็งแกร่งหนุนเฟดขึ้นดอกเบี้ย

.ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 13,000 ราย ต่ำสุดในรอบ 9 เดือน

เมื่อเวลาประมาณ 22.15 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 33,567.58 จุด ลดลง
97.50 จุด หรือ 0.29% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ 4,301.62 จุด ลดลง 12.98 จุด หรือ 0.30%  ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส อยู่ที่ 13,284.10 จุด ลดลง 30.20 จุด หรือ 0.23% 

นักลงทุนพากันขายลดความเสี่ยง จับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อหาทิศทางดอกเบี้ยที่เหลือของปีนี้ ทั้งนี้ การประกาศตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานที่ต่ำกว่าคาดในวันนั้ ซึ่งบ่งชี้ตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง และจะเป็นปัจจัยหนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 13,000 ราย สู่ระดับ 198,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือน และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 210,000 ราย
โดยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกต่ำกว่าระดับ 210,000 รายเป็นสัปดาห์ที่ 5 ติดต่อกัน

นอกจากนั้น ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา ยังเปิดเผยแบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 5.4% ในไตรมาส 3/2566 หลังจากมีการขยายตัว 2.2% และ 2.1% ในไตรมาส 1 และ 2 ตามลำดับ ซึ่งแสดงการขยายตัวที่ดีของเศรษฐกิจ

ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟีย เปิดเผยดัชนีภาคการผลิตในภูมิภาคมิด-แอตแลนติก ปรับตัวขึ้น 5 จุด สู่ระดับ -9.0 ในเดือนต.ค. แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ -6.8

นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายพาวเวลที่สมาคมเศรษฐกิจแห่งนิวยอร์ก (Economic Club of New York) ในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยจะมีการกล่าวสุนทรพจน์ดังกล่าว ซึ่งจะมีขึ้นในเวลา 12.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือคืนนี้เวลา 23.00 น.ตามเวลาไทย ถือเป็นการแสดงความเห็นของนายพาวเวลเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่เจ้าหน้าที่เฟดจะเริ่มเข้าสู่ช่วงงดเว้นการแสดงความเห็นเกี่ยวกับนโยบายการเงิน (Blackout Period) ในวันเสาร์นี้ และก่อนที่เฟดจะจัดการประชุมกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ในวันที่ 31 ต.ค.-1 พ.ย.

นักลงทุนเทน้ำหนักเกือบ 100% ในการคาดการณ์ว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนพ.ย. และเพิ่มน้ำหนักในการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นการประชุมนโยบายการเงินครั้งสุดท้ายในปีนี้ หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 97.2% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 31 ต.ค.-1 พ.ย.

ทั้งนี้ การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐยังคงกดดันบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้น โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นใกล้แตะระดับ 5% ในวันนี้ หลังดีดตัวทะลุ 4.9% วานนี้ ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2550 ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 30 ปีพุ่งทะลุ 5%