ดัชนีดาวโจนส์ปรับลดกว่า 50 จุด มีแรงเทขายทำกำไรหลังยอดค้าปลีกดีกว่าคาด



.นักลงทุนเทขายทำกำไรหุ้นที่ราคาดีดขึ้นในช่วงก่อนหน้า หลังยอดค้าปลีกออกมาดีกว่าที่คาด

.กระทรวงพาณิชย์ เผย ยอดค้าปลีกพุ่งขึ้น 0.7% ในเดือนก.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาด

.ตลาดจับตาถ้อยแถลงนายพาวเวล มองค้าปลีกดีเป็นปัจจัยหนุนเฟดขึ้นดอกเบี้ยระลอกใหม่

เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 33,934.12 จุด ลดลง 50.42 จุด หรือ-0.15% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ 4,364.55 จุด ลดลง 9.08 จุด หรือ-0.21% ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส อยู่ที่ 13,504.57 จุด ลดลง 63.41จุด หรือ -0.47%


ยอดค้าปลีกสูงที่กว่าคาดในเดือนก.ย.ทำให้นักลงทุนกลับมากังวลโอกาสการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และขายหุ้นออกมาเพื่อทำกำไร ราคาหุ้นที่ปรับขึ้นไปในช่วงก่อนหน้า ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลดีดตัวขึ้น อย่างไรก็ตาม นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา และจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ขานรับผลประกอบการที่สดใส


นักลงทุนเพิ่มน้ำหนักในการคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นการประชุมนโยบายการเงินครั้งสุดท้ายในปีนี้ หลังสหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกที่สูงเกินคาด ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 37.1% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.50-5.75% ในการประชุมเดือนธ.ค. หลังจากที่ให้น้ำหนักเพียง 25.0% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว


ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกพุ่งขึ้น 0.7% ในเดือนก.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 0.3% โดยได้รับแรงหนุนจากยอดขายรถยนต์ และยอดขายของสถานีบริการน้ำมัน และหากไม่รวมยอดขายรถยนต์และน้ำมัน ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนก.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 0.1%


ตลาดติดตามถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ที่มีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ที่สมาคมเศรษฐกิจแห่งนิวยอร์ก (Economic Club of New York) ในวันพฤหัสบดีนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด


โดยการกล่าวสุนทรพจน์ดังกล่าว ถือเป็นการแสดงความเห็นของนายพาวเวลเป็นครั้งสุดท้าย ขณะที่เจ้าหน้าที่เฟดจะเริ่มเข้าสู่ช่วงงดเว้นการแสดงความเห็นเกี่ยวกับนโยบายการเงิน (Blackout Period) ในวันเสาร์นี้ ก่อนที่เฟดจะจัดการประชุมกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ในวันที่ 31 ต.ค.-1 พ.ย.


ด้านทิศทางเศรษฐกิจ สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านปรับตัวลง 4 จุด สู่ระดับ 40 ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. บ่งชี้ถึงมุมมองทั่วไปที่เป็นลบของผู้สร้างบ้าน โดยดัชนีอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 เป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน โดยดัชนีความเชื่อมั่นได้รับผลกระทบจากการพุ่งขึ้นของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง