ดาวโจนส์ลบต่อกว่า 90 จุด ตลาดยังกังวลเศรษฐกิจ-ดอกเบี้ยแพง



  • มีแรงซื้อหุ้นเข้ามาทดสอบตลาดในช่วงแรก แต่ยืนไม่อยู่ตลาดแกว่งในแดนลบ
  • นักลงทุนจับตาความคืบหน้าสภาคองเกรสผ่านร่างงบประมาณชั่วคราว ป้องกันภาวะเกิดชัตดาวน์
  • ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือน ส.ค.ดีกว่านักวิเคราะห์คาด

เมื่อเวลาประมาณ 22.05 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 33,525.32 จุด ลดลง
 93.56 จุด หรือ 0.28% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ 4,269.14 จุด ลดลง  4.39 จุด หรือ 0.10%  ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส อยู่ที่13,056.64 จุด ลดลง 6.97 จุดหรือ 0.05% 

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดีดตัวขึ้นในช่วงแรก โดยได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อเก็งกำไร หลังจากที่ตลาดทรุดตัวลงอย่างหนักวานนี้ ท่ามกลางความกังวลเภาวะเศรษฐกิจสหรัฐอาจถดถอย หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นนำตลาด สอดคล้องกับราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นในตลาดโลก โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นกว่า 2% ทะลุระดับ 92 ดอลลาร์ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันตึงตัว

อย่างไรก็ตาม ดัชนีได้อ่อนตัวลงในแดนลบ เนื่องจากมีการขายลดความเสี่ยง เนื่องจากนักลงทุนยังไม่แน่ในภาวะเศรษฐกิจ ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับลดลงวันนี้ แต่ยังคงอยู่ในระดับสูง สอดคล้องกับคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานานเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ยังคงเป็นปัญหากวนใจนักลงทุน และกดดันตลาดหุ้นต่อเนื่อง

ราคาหุ้นของบริษัท ทาร์เก็ต คอร์ป ซึ่งเป็นห้างค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐ ดีดตัวขึ้นในวันนี้ หลังบริษัทประกาศปิดหลายสาขาในเมืองต่างๆ ทั่วสหรัฐ เนื่องจากประสบปัญหาการโจรกรรมสินค้าของกลุ่มคนร้ายที่ทำเป็นขบวนการ

นักลงทุนจับตาความคืบหน้าของสภาคองเกรสในการผ่านร่างงบประมาณชั่วคราว ซึ่งหากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงภายในวันที่ 30 ก.ย. ก็จะทำให้มีการปิดหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐ หรือชัตดาวน์ในวันที่ 1 ต.ค. ตลาดจับตาดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ซึ่งมาตรวัดเงินเฟ้อในวงกว้าง โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี PCE ทั่วไป ยังคงปรับตัวสูงขึ้น

อย่างไรก็ตาม มีข่าวดีในด้านตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนส.ค. หลังจากดิ่งลง 5.6% ในเดือนก.ค. ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่ายอดสั่งซื้อสินค้าคงทนลดลง 0.5% ในเดือนส.ค.

ส่วนยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐาน ซึ่งเป็นคำสั่งซื้อสินค้าทุนที่ไม่รวมเครื่องบิน และสินค้าด้านอาวุธ โดยเป็นสิ่งบ่งชี้แผนการใช้จ่ายของภาคธุรกิจ พุ่งขึ้น 0.9% ในเดือนส.ค. หลังจากลดลง 0.4% ในเดือนก.ค.