

.ชี้น้ำในอ่างลด 1% ดันเงินเฟ้อเพิ่มแค่ 0.0004%
.เหตุมีมาตรการรัฐดูแลราคาสินค้าลดค่าครองชีพ
.สินค้าถูกกระทบเป็นอาหารและเครื่องดื่มไร้แอลกอฮอล์
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า เปิดเผยถึงสถานการณ์ภัยแล้งที่อาจทวีความรุนแรงขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายปี 66 จนถึงช่วงฤดูร้อนปี 67 โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคตะวันออกว่า อาจส่งผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อ โดยเฉพาะหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ แต่ขนาดของผลกระทบยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัด เนื่องจากยังมีปัจจัยอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะต้นทุนการผลิต ปริมาณ และราคาในตลาดโลก ที่จะผลักดันให้ราคาสินค้าในประเทศเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่มาตรการภาครัฐ จะเป็นปัจจัยทอนสำคัญที่ทำให้ราคาสูงขึ้นไม่มากนัก อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อจะได้ออกมาตรการช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที

สำหรับสินค้าในตระกร้าเงินเฟ้อ หรือสินค้าที่นำมาใช้คำนวณเงินเฟ้อ ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง จะเป็นสินค้ากลุ่มอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์เป็นสำคัญ ซึ่งมีสัดส่วนมากถึง 41.34% ของตระกร้าเงินเฟ้อ โดยเฉพาะกลุ่มผักสด ผลไม้สด ข้าว ไข่ ปลาและสัตว์น้ำ ที่จะได้รับผลกระทบโดยตรง ซึ่งจากการวิเคราะห์ ร่วมกับปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 35 แห่ง (ข้อมูลปี 51 – 65) พบว่า หากปริมาณน้ำในอ่างลดลง 1% จะส่งผลให้ดัชนีหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์เพิ่มขึ้น 0.0004% เท่านั้น
“จากการวิเคราะห์ พบว่า หากน้ำในอ่าง 35 แห่งสำคัญทั่วประเทศ ลดลง 1% เงินเฟ้อหมวดอาหารและเครื่องดื่มจะเพิ่มน้อยมากเพียง 0.0004% เท่านั้น เพราะยังมีมาตรการภาครัฐ ที่จะเข้ามาช่วยกำกับดูแลราคาสินค้าในกลุ่มนี้ ที่มีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิต ทำให้ราคาไม่สูงขึ้นมากตามกลไกของตลาด อีกทั้งหากมีการบริหารจัดน้ำที่มีประสิทธิภาพ จะบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อผลผลิตทางการเกษตรได้ ขณะเดียวกัน หากความต้องการซื้อสมดุลกับปริมาณสินค้า และหากมีการนำเข้าสินค้ามาในปริมาณที่เพียงพอกับความต้องการ ราคาสินค้าก็จะไม่สูงขึ้น แม้ผลผลิตในประเทศขาดแคลก็ตาม”
สำหรับสินค้าเกษตรอื่นๆ ที่ทั่วโลกกังวลว่าจะเกิดความขาดแคลน และหลายประเทศห้าม หรือจำกัดการส่งออก ทั้งข้าว ปาล์มน้ำมัน น้ำตาลนั้น สถานการณ์ในไทยยังไม่น่ากังวลมากนัก เพราะไทยผลิตสินค้ากลุ่มนี้ ซึ่งมีเพียงพอกับความต้องการในประเทศ และเหลือส่งออก แต่หากภัยแล้งรุนแรงมาก อาจจะกระทบต่อราคาสินค้าในประเทศและปริมาณการส่งออก อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์ได้ตั้งวอร์รูมเพื่อรับมือกับผลกระทบ
และมีการประชุมกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง หากผลกระทบมีความรุนแรง จะมีมาตรการให้ความช่วยเหลือแก่เกษตรกร และผู้บริโภค ซึ่งต้องพิจารณาถึงผลกระทบของมาตรการต่อทั้งเกษตรกร ผู้ประกอบการ และผู้บริโภคอย่างรอบด้านด้วย