

“ภูมิธรรม”ขอไม่เกิน 30 คน กรรมการศึกษาทำประชามติร่างร่างรัฐธรรมนูญใหม่ เริ่มต้นจะดึงตัวแทนจากทุกพรรคให้มากที่สุด ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล ชี้ต้องพยายามจะทำให้ความต้องการของ ปชช. ประสบความสำเร็จ
- เริ่มต้นจะดึงตัวแทนจากทุกพรรคให้มากที่สุด
- ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล
- ต้องพยายามจะทำให้ความต้องการของปชช.
วันที่ 24 กันยายน 2566 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนถึงการตั้งคณะกรรมการศึกษาการทำประชามติ ที่นายพริษฐ์ วัชรสินธุ โฆษกพรรคก้าวไกล ได้เสนอกรรมการควรต้องมีตัวแทนจากทุกภาคส่วนเพื่อให้มีการรับฟังอย่างรอบด้าน ว่า เป็นเจตนารมณ์ของเราอยู่แล้ว ที่พยายามจะดึงทุกภาคส่วน แต่เรามีข้อจำกัด 1 อย่าง ซึ่งหากดึงทุกภาคส่วนในสังคมเข้ามาจริงๆ ปริมาณจำนวนจะเกินมากๆ และการมีคณะกรรมการจำนวนมากจะทำให้การทำงานยากลำบาก ตนประมาณไว้ไม่เกิน 30 คน
เริ่มต้นจะดึงตัวแทนจากทุกพรรคให้มากที่สุด ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล รวมทั้งกลุ่มวิชาชีพต่างๆมาร่วม แต่ต้องโฟกัสไม่ให้เกิน 30 คน หากได้ตรงนี้ และขาดบางส่วนไป ตนคิดว่ามีวิธีการทำให้ประสบความสำเร็จ หรือบรรลุเป้าหมาย โดยที่คณะกรรมการสามารถกำหนดวาระหรือรายละเอียดของการประชุมไปคุยกับกลุ่มต่างๆให้มากที่สุด แม้ไม่เข้ามาเป็นกรรมการก็สามารถไปคุยได้ กระแสข่าวที่มีตัวแทนจากไอลอร์ ร่วมเป็นกรรมการด้วยหรือไม่นั้น นายภูมิธรรม ระบุว่า ขอดูรายละเอียดก่อน เนื่องจากพื้นฐาน เราพยายามดึงทุกส่วนให้เขามามากที่สุด
หลังจากนั้นเราจะไปรับฟังความเห็น ว่าภายในทั้ง 30 คน พยายามจะทำให้ความต้องการของ ปชช. ประสบความสำเร็จ บนพื้นฐานที่เราตั้งใจให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญสืบพันธุ์การเลือกตั้งครั้งหน้า พร้อมกฎหมายลูกที่จะทำให้ ปชช.ได้เลือกตั้งใน วาระที่สามารถใช้กติกาใหม่ๆได้ทั้งหมดรวมทั้งเงื่อนไขหลายอย่างที่เคยระบุไว้ ส่วนที่สำคัญ การเสนอร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ไปแล้วนั้น ต้องเป็นรัฐธรรมนูญที่ผ่านความพอใจและความเข้าใจของทุกฝ่ายได้ ฉะนั้นรัฐธรรมนูญนี้จะไม่สุดโต่งจนเกินไป และเป็นรัฐธรรมนูญที่สามารถสร้างความเป็นประชาธิปไตยให้มากขึ้น เราจะได้แก้ไขเหล่านี้