“ชาดา”ลั่น ผู้มีอิทธิพล “พวกคุณพอได้แล้ว” ถ้าเกิดขึ้นอีกทุกองคาพยพจะลงไปกระหน่ำ



“ชาดา”ลั่น ผู้มีอิทธิพล “พวกคุณพอได้แล้ว” ถ้าเกิดขึ้นอีกทุกองคาพยพจะลงไปกระหน่ำ จะทำงานสร้างระบบตรวจสอบ ไม่ยอมให้ใครมาท้าทายอำนาจรัฐอีก

  • มาทำงานนี้ด้วยความตั้งมั่นไม่ใช่ทำงานตามกระแส
  • แจงไม่ได้ “ดีด” แต่ป่วยกระดูกคอมีปัญหา

“ผมอยากบอกตรงๆเลยว่า ผมก็เคยเป็นผู้มีอิทธิพล เคยกลิ้งมาแล้ว เคยถูกรัฐตรวจสอบ สิ่งสำคัญอยากบอกว่าไม่มีใครใหญ่กว่าประตูคุกในประเทศนี้”

นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ในรายการโหนกระแสว่า ไม่กังวลใจกับการได้รับมอบหมายให้จัดการเรื่องผู้มีอิทธิพล ถ้าเรียกแบบชาวบ้านคือถูกฝาถูกตัว เนื่องจากตนเองเคยโดนขึ้นบัญชีผู้มีอิทธิพล แต่ก็ผ่านการพิสูจน์มาแล้วว่าไม่ได้ทำอะไรที่ผิดกฎหมาย ตำรวจตรวจสอบแล้ว จนถึงวันนี้ได้รับการยอมรับจากประชาชนให้มาเป็นสส. ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทยให้มาจัดการเรื่องนี้

“ผมอยากบอกตรงๆเลยว่า ผมก็เคยเป็นผู้มีอิทธิพล เคยกลิ้งมาแล้ว เคยถูกรัฐตรวจสอบ ถูกเจ้าหน้าที่ตรวจสอบมา สิ่งสำคัญอยากบอกว่าไม่มีใครใหญ่กว่าประตูคุกในประเทศนี้”

นายชาดากล่าวว่า คำว่าอิทธิพลมีทั้งด้านดีและด้านไม่ดี ถ้ามีอิทธิพลแล้วไปทำงานเพื่อบ้านเมือง ใช้อิทธิพลช่วยเหลือประชาชน อันนี้เป็นเรื่องที่ยอมรับได้ แต่ถ้าอิทธิพลด้านร้าย โลกปัจจุบันยอมรับกันไม่ได้แล้ว โดยเฉพาะการท้าทายอำนาจรัฐ การจัดว่าเป็นผู้มีอิทธิพลจะอยู่ใน 16 ฐานความผิด ปัญหาคือ เคยทำบัญชีผู้มีอิทธิพลมาหลายครั้ง บรรดาเจ้าพ่อ ผู้มีอิทธิพลตายไปกันจำนวนมากแล้ว ในระบบใหม่ก็ต้องมาตรวจสอบกันว่ามีใครบ้าง มาทบทวนข้อมูลกันใหม่

รมช.มหาดไทยกล่าวว่า มาทำงานนี้ด้วยความตั้งมั่นไม่ใช่ทำงานตามกระแส จะทำงานสร้างระบบตรวจสอบ แล้วก็ไม่ยอมให้ใครมาท้าทายอำนาจรัฐอีกแล้วโดยเฉพาะคนที่อยู่ในกระทรวงมหาดไทย หรือใครก็ตามในประเทศไทย คุณมายิงตำรวจแล้วเขาไม่ผิดด้วย เรื่องนี้ยอมให้เกิดขึ้นอีกไม่ได้แล้ว เราจะทำอย่างไร เฝ้าระวังอย่างไรไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นในสังคมอีก อันนี้เป็นเรื่องสำคัญ การท้าทายอำนาจรัฐ รังแกประชาชนต้องไม่เกิดขึ้น ต้องเป็นความร่วมมือกันของกระทรวงมหาดไทยกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ” นายชาดากล่าว

สำหรับระบบตรวจสอบที่จะสร้างขึ้นนั้น อย่างแรกต้องป้องกัน เฝ้าระวังคนทำผิดกฎหมายก่อน นายอำเภอ ผู้กำกับ รับผิดชอบเบื้องต้น กำนัน ผู้ใหญ่บ้านต้องรายงานนายอำเภอ แต่ถ้ากำนัน ผู้ใหญ่บ้านเป็นเอง นายอำเภอต้องรายงานปรึกษากับผู้กำกับ แล้วถ้าไม่มีการรายงานแล้วเกิดเหตุขึ้น แสดงว่าเป็นพวกเดียวกับเขา ต้องรายงานท่านผู้ว่าฯ ท่านผู้การ ร่วมมือกัน แล้วป้องกันไม่ให้เกิดระบบที่เลวร้าย จะมายิงตรวจ มารังแกประชาชนไม่ได้ ถ้าระบบดีมันเอาอยู่ สส.ในพื้นที่ก็ต้องดูลูกน้องตัวเองเป็นอย่างไร ดีชั่วอย่างไร

“หยุดได้แล้ว พวกคุณพอแล้ว อย่ามีแบบนี้เกิดขึ้นอีก ถ้ามีรับรองได้ว่า องค์กรของรัฐไม่ปล่อยคุณไว้ และเราจะไม่ให้แค่คุณไปติดคุก สังคมคุณ เพื่อนฝูงคุณ ครอบครัวคุณเดือดร้อนแน่นอน องค์กรของรัฐจะเข้าไปตรวจสอบทั้งหมด ทุกองคาพยพจะลงไปกระหน่ำเลย ต้องลงไปรุม ทั้งตรวจสอบภาษี ตรวจสอบบริษัท การกระทำ” นายชาดากล่าว

อย่างไรก็ตามกำนันทำหน้าที่ปกครองท้องที่ไม่ใช่ว่าเกิดเรื่องกำนันนกมาแล้ว กำนันจะเลวร้ายทุกคน ต้องให้ความเป็นธรรมกับกำนันทั่วประเทศ 70,000 กว่าคน ย่อมมีคนดีบ้างไม่ดีบ้าง

นายชาดายังกล่าวถึงการหันคอไปมา ที่คนสงสัยว่าเกิดจากอาการ “ดีด” หรือเปล่าว่า “เป็นอาการป่วยของผม กระดูกคอมีปัญหา ฟิล์มเอ็กซเรย์ก็มี กระดูกข้อ2 กับข้อ4 จากการประสบอุบัติเหตุ สมัยวัยรุ่นซิ่งมอเตอร์ไซค์ ถ้ามีอาการเครียด หรืออดนอนก็จะยิ่งเป็น โดยเฉพาะหลังวันอภิปรายวันที่ 13 สิงหาคม ผมโดนเยอะ ลูกหลานก็โดน ผมก็เครียด อาการหนักขึ้นจริงๆตอนให้สัมภาษณ์ ช่วงนี้กำลังทำกายภาพบำบัด พยายามสร้างกล้ามเนื้อคอให้แข็งแรง เป็นมาหลายสิบปี”