สภาอุตฯดัน3สมาคมการพิมพ์/กระดาษ/บรรจุภัณฑ์โต10%



  • สภาอุตฯนำธุรกิจ 3 สมาคมการพิมพ์บรรจุภัณฑ์กระดาษลูกฟูกดันไทยฮับอาเซียนปี’67หวังโต 10 %
  • ผนึกเมสเซ่ดุสเซลดอร์ฟเอเชียจัด Pack Print International 2023 และ Corrutec Asia 2023 ดึง 300 บริษัทแถวหน้าของโลกร่วมเจรจาการค้าในไทย  
  • เปิดนวัตกรรมโลกใหม่เพียบ 5 กลุ่มทั้ง AI, ดิจิทัลพรีเมี่ยมดีไซน์ความปลอดภัยและยั่งยืน

นายเกรียงไกรเธียรนุกุลประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยเปิดเผยว่า สภาอุตสาหกรรมฯ พันธมิตร 3   สมาคม คือ สมาคมการพิมพ์ไทย สมาคมการบรรจุภัณฑ์ไทย สมาคมบรรจุภัณฑ์กระดาษลูกฟูกไทย ร่วมกับ บริษัท เมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ เอเชีย จำกัด เตรียมจัดงาน “Pack Print International 2023 และ Corrutec Asia 2023” ระหว่าง 20 – 23 กันยายน 2566 ซึ่งเป็นมหกรรมแสดงสินค้านานาชาติด้านอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์การพิมพ์ครั้งที่ 9 และกระดาษลูกฟูกแห่งภูมิภาคเอเชีย ครั้งที่ 2  ตอกย้ำถึงศักยภาพความเป็นผู้นำด้านการผลิตของผู้ประกอบการไทยซึ่งมีความโดดเด่นที่สุดในอาเซียน รวมทั้งจะใช้งานนี้เปิดโลกอนาคตแห่งนวัตกรรมใหม่ล่าสุด 5 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ 1 ปัญญาประดิษฐ์ (AI) กลุ่มที่ 2 เทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Economy) กลุ่มที่ 3 บรรจุภัณฑ์พรีเมียม (Premium Design) กลุ่มที่ 4 เทคโนโลยีช่วยเพิ่มความปลอดภัย (Safety & Security) และ กลุ่มที่ 5 บรรจุภัณฑ์เพื่อความยั่งยืน (Sustainability) 

รวมทั้งจะนำเสนอกลยุทธ์ส่งเสริมความยั่งยืน 3 อุตสาหกรรมหลักของไทย คือ 1.อุตสาหกรรมการพิมพ์กับแนวคิดเชื่อมโยงระหว่างสื่อสิ่งพิมพ์กับโลกดิจิทัล 2.อุตสาหกรรมการบรรจุภัณฑ์ที่พร้อมผลักดันด้านเทคโนโลยีเพื่อออกแบบบรรจุภัณฑ์ฟังชันก์สุดล้ำ 3.บรรจุภัณฑ์กระดาษลูกฟูกที่ชูโซลูชั่นต่อยอดความยั่งยืนระยะยาวด้วยแนวคิดการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน และแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน ซึ่งมีความมั่นใจจะผลักดันอุตสาหกรรมการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ปี 2567 เติบโตเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 10%

นายเกรียงไกร กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยปี 2566 ปรับตัวต่อเนื่องและมีสัญญาณที่ดีต่อภาคอุตสาหกรรมไทยต่อเนื่อง ปี 2566 -2567 โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการพิมพ์และการบรรจุภัณฑ์ ซึ่งมีโซลูชั่นสนับสนุนกระบวนการในห่วงโซ่ธุรกิจบริการที่มีมูลค่าสูงในปัจจุบัน รวมทั้งเป็นกลุ่มเติบโตโดดเด่นได้ถึง 5 % จากมูลค่าตลาดโดยรวมในเมืองไทยขณะนี้มีประมาณ 350,000 ล้านบาท แบ่งเป็น บรรจุภัณฑ์ 60% กับสิ่งพิมพ์ 40% 

ทางสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยได้เน้นย้ำและส่งเสริมผู้ประกอบการเร่งพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อรองรับการผลิตเพื่อให้เกิดความยั่งยืน เพิ่มโอกาสการแข่งขัน ศักยภาพ และสร้างโอกาสในการเติบโตโดยขยายธุรกิจตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคซึ่งปัจจุบันและอนาคตใช้ชีวิตวิถีใหม่เปลี่ยนแปลงไปมากแล้ว

นายเกอร์นอทริงลิ่งกรรมการผู้จัดการบริษัท เมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ เอเชียกล่าวว่า ปี 2566 มั่นใจจะมีผู้จัดแสดงสินค้า (Exhibitor) ตอบรับเข้าร่วมงานเพิ่มขึ้น 20% และคาดจะผู้เข้าชมเข้าร่วมงานกว่า 15,000 คนหลังจากปี 2565 การจัดงานนี้สร้างความสำเร็จอย่างมากมีสถิติผู้เข้าชมจากทั่วโลกกว่า 10,000 คน ซึ่งปัจจุบันผู้บริโภคทั่วโลกก้าวสู่เมกะเทรนด์ด้วยพฤติกรรมการหันมาตระหนักให้ความสำคัญกับเรื่องความยั่งยืนเลือกซื้อสินค้ารักษ์โลกกันมากขึ้น ทำให้กลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ปรับตัวรับเทรนด์ใหม่ด้วยการผลิตแบบคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม เช่น เลือกใช้วัสดุที่ปลอดภัยมาพัฒนาบรรจุภัณฑ์รักษ์โลก ใช้แนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จึงทำให้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ช่วยตอกย้ำศักยภาพของไทยเป็นผู้นำและฐานผลิตที่โดดเด่นที่สุดอาเซียนของทั้ง 3 อุตสาหกรรม 

ปี 2566 จึงเดินหน้าอย่างยิ่งใหญ่ในการจัดแสดงสินค้านานาชาติด้านอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์การพิมพ์ และกระดาษลูกฟูกแห่งภูมิภาคเอเชีย หรือ “Pack Print International 2023 and Corrutec Asia 2023” เปิดพื้นที่ให้ผู้ประกอบการและผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมจัดแสดงนวัตกรรมด้านการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์อันล้ำสมัย แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ เทคโนโลยีใหม่ เพื่อนำไปต่อยอดทางธุรกิจ สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ และยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันระดับสากลในช่วงที่เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวได้เป็นอย่างดีต่อไป

โดยจะใช้งานแสดงสินค้าครั้งนี้เป็นศูนย์กลางการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์กระดาษลูกฟูก และอุตสาหกรรมการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ ร่วมกับพันธมิตรชั้นนำ เช่น T-PLAS,wire and Tube Southeast Asia, GIFA และ METEC Southeast Asia 

ผู้เข้าร่วมงานจะได้พบกับนวัตกรรมของผู้ผลิตเทคโนโลยีชั้นนำกว่า 300 บริษัท  จากทั่วโลก 20 ประเทศ เช่น จีน อิตาลี ญี่ปุ่น เยอรมนี สหรัฐอเมริกา และไทย พร้อมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างกัน ภายใต้คอนเซ็ปต์ Defining packaging & printing in Asia มีไฮไลต์นวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่พัฒนาขึ้นเพื่อรองรับเทรนด์โลก และได้จัดหาวัตถุดิบตอบโจทย์ด้านความยั่งยืน ครอบคลุมเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ เทคโนโลยีดิจิทัล บรรจุภัณฑ์พรีเมียม เทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัย และบรรจุภัณฑ์เพื่อความยั่งยืน (Sustainability) โดยเฉพาะอย่างยิ่งโซลูชั่นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โซลูชั่นบรรจุภัณฑ์จากพืชและไฟเบอร์ และอีกมากมาย 

นายพงศ์ธีระพัฒนพีระเดชนายกสมาคมการพิมพ์ไทยกล่าวว่า ภาพรวมของอุตสาหกรรมการพิมพ์ไทยในปัจจุบันเติบโตต่อเนื่องช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศโดยเติบโตไปตาม GDP ประเทศ คิดเป็น 1.8% มีมูลค่า 350,000 ล้านบาท แบ่งเป็นอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ 60% อุตสาหกรรมสิ่งพิมพ์ 40% ด้วยศักยภาพที่โดดเด่นด้านการเป็นศูนย์กลางการผลิตขนาดใหญ่ของ AEC ที่มีเสถียรภาพและมีเทคโนโลยีการพิมพ์ขั้นสูงเทียบเท่าระดับสากล ผู้ประกอบการไทยจึงได้เร่งพัฒนา เรียนรู้ และปรับกระบวนทัศน์ให้เท่าทันต่อความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เชื่อมโยงระหว่างสื่อสิ่งพิมพ์เข้ากับโลกดิจิทัล เพื่อรองรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีความต้องการผลิตภัณฑ์ด้านสิ่งพิมพ์ที่สร้างสรรค์ในรูปแบบใหม่ๆและทันสมัย ช่น การพิมพ์ QR code การพิมพ์ฉลากบรรจุภัณฑ์แบบ Smart label ที่เชื่อมโยงกับดิจิทัลดาต้าช่วยผู้บริโภครับรู้ข้อมูลสินค้าผ่านการสแกนคิวอาร์โค้ด 

นายประเสริฐหล่อยืนยงนายกสมาคมการบรรจุภัณฑ์ไทย กล่าวว่า ช่วงครึ่งปีหลังอุตสาหกรมบรรจุภัณฑ์ยังคงมีการปรับตัวได้ดีเนื่องจากบรรจุภัณฑ์ต่าง ๆ มีบทบาทสำคัญรองรับกระบวนการผลิตทั้งในธุรกิจอาหาร เครื่องดื่ม การท่องเที่ยว และส่งออก ทางสมาคมได้เร่งเสริมสร้างเครือข่ายขยายตลาดทั้งไทยและต่างประเทศ ผลักดันไทยเป็นผู้นำและเป็นฐานการผลิตให้ได้ตามคอนเซ็ปต์ครัวของโลก ต่อเนื่องจากปี 2565 ขยายตัวได้แล้ว 4.0% มีมูลค่าราว 6.69 แสนล้านบาท ปี 2566 แนวโน้มตลาดบรรจุภัณฑ์0tขยายตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 10% คิดเป็นมูลค่าตลาดสูงถึง 7.35 แสนล้านบาท

นายชูศักดิ์ดีตระกูลวัฒนผลนายกสมาคมบรรจุภัณฑ์กระดาษลูกฟูกไทยกล่าวว่า ปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันอุตสาหกรรมนี้เติบโตตามความต้องการของหลายภาคธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจอีคอมเมิร์ซและธุรกิจรองรับการขนส่งสินค้าทำให้บรรจุภัณฑ์ประเภทกล่องพัสดุเพื่อบรรจุสินค้าเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งทางผู้ผลิตในอุตสาหกรรมลูกฟูกไทยทั้งรายใหญ่และรายย่อยจึงเร่งพัฒนาและนำเข้าเทคโนโลยีสมัยใหม่มาเพิ่มศักยภาพการผลิตที่ได้มาตรฐาน ทั้งประสิทธิภาพการผลิตมีความรวดเร็วและใช้นวัตกรรมทำบรรจุภัณฑ์เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม คาดอีก 2 ปีข้างหน้า อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์กระดาษลูกฟูกไทยจะเติบโตเฉลี่ยปีละ 2-3% ตามภาวะเศรษฐกิจโดยรวมฟื้นตัว

ปัจจุบันสมาคมฯได้วางโซลูชั่นและแนวทางที่เหมาะสมเพื่อต่อยอดความยั่งยืนระยาว โดยวิธีสนับสนุนและผลักดันให้ผู้ผลิตหันมาให้ความสำคัญกับ 2 แนวคิด  คือ แนวคิดที่ 1 ทำธุรกิจอย่างยั่งยืน หรือ ESG (Environment Social Governance) ควบคู่การลดใช้ทรัพยากรจากธรรมชาติ การลงทุนติดตั้งเครื่องจักรเพื่อลดใช้พลังงาน เปลี่ยนจากใช้มอเตอร์ธรรมดาเป็นเซอร์โวมอเตอร์ และใช้ระบบบำบัดน้ำเสียให้มีประสิทธิภาพ แนวคิดที่ 2 เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) เน้นใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้คุ้มค่าที่สุด ด้วยการผลิตบรรจุภัณฑ์รักษ์โลกรีไซเคิลนำมากลับมาใช้ใหม่ได้ พร้อมกับนำร่องวางระบบการหมุนเวียนเศษกระดาษที่เหลือใช้จากกระบวนการผลิตมาประกอบเป็นเศษอัดก้อนแล้วนำส่งคืนสู่โรงงานผู้ผลิตกระดาษต่อไป

เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza, www.facebook.com/penroongyaisamsaen