“เศรษฐา” การันตี “บิ๊กทิน” ทำงานประสานกับกองทัพได้



“เศรษฐา” การันตี “สุทิน คลังแสง” ทำงานประสานกับกองทัพได้ ส่วนเสียงวิพากษ์วิจารณ์หน้าตาครม.มีสิทธิ์คิดกันได้ แต่ต้องให้เกียรติตัวรัฐมนตรี

  • ทราบเรื่อง”ชลน่าน”จะประกาศลาออกหัวหน้าพรรคแล้ว รอเจ้าตัวแถลงเอง
  • หัวหน้าพรรคคนใหม่ต้องเป็นคนที่อยู่กับพรรคมานานพอสมควร
  • และมีความรู้ความสามารถ รอบรู้ ทั้งด้านการเมือง ความมั่นคง เศรษฐกิจ และด้านสังคม

วันที่ 30 สิงหาคม 2566 นายเศรษฐา  ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ หน้าตาคณะรัฐมมนตรี(ครม.)ที่อาจจะไม่เหมาะสมเท่าไหร่ว่า ต้องให้เกียรติพรรคร่วม และต้องให้เกียรติผู้ที่ประสานงานในการจัดตั้งครม.ด้วย ส่วนหน้าตาครม.ทุกคนมีสิทธิ์คิดกันได้ แต่ต้องให้เกียรติตัวรัฐมนตรี

“ผมมั่นใจว่ารัฐบาลเรามีภาระกิจมากและมีเป้าหมายในการทำงานอย่างชัดเจน เราคงต้องวัดกันที่ตรงนี้ ทุกคนต้องเริ่มทำงานแล้ว” นายเศรษฐากล่าว

เมื่อถามว่าในส่วนของกระทรวงกลาโหม จะเอาพลเรือนเข้ามาคุมกองทัพเป็นการด้อยค่าหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า นายสุทิน คลังแสง เป็นผู้มีอาวุโส เป็นสส.หลายสมัย และเท่าที่รู้จักเป็นคนให้เกียรติคน เชื่อว่าการประสานงานกับกองทัพจะเป็นไปได้ด้วยดี และตนเองจะเข้าไปช่วยดูตรงนี้ด้วย ต้องให้แน่ใจว่าทุกสถาบันได้รับการดูแลเอาใจใส่ การพูดคุยอย่างเหมาะสม และสมฐานะ

ส่วนการตรวจสอบคุณสมบัติว่าที่รัฐมนตรีนั้น นายเศรษฐากล่าวว่า ตามที่ได้พูดคุยกับเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ระยะเวลาในการตรวจสอบน่าจะอยู่ที่ประมาณ 2 วัน

นายเศรษฐากล่าวด้วยว่า ทราบแล้วว่านพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย จะประกาศลาออกในวันนี้ รอให้นพ.ชลน่านแถลงเอง คงมาพูดเรื่องนี้ ต้องให้เกียรติกัน นพ.ชลน่านเป็นสส.มาหลายสมัย และทำประโยชน์ให้พรรคเพื่อไทยมานาน เป็นที่รักของสส.ทุกคน ตนเองเข้ามาใหม่ก็ได้รับการดูแลอย่างดี ไม่ว่าจะตัดสินใจอย่างไร ในอนาคตคงจะอยู่กับพรรคเพื่อไทยช่วยเหลือพรรคและดูแลประชาชนต่อไป

เมื่อถามว่าคุณสมบัติของคนที่จะมาเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยต่อไปต้องเป็นอย่างไรบ้าง นายเศรษฐากล่าวว่า ตนเองในฐานะสมาชิกพรรคเพื่อไทยคนหนึ่ง ต้องเป็นคนที่อยู่กับพรรคมานานพอสมควรและมีความรู้ความสามารถ รอบรู้ ทั้งด้านการเมือง ความมั่นคง เศรษฐกิจ และด้านสังคม ส่วนโอกาสที่นพ.ชลน่านจะกลับมาเป็นหัวหน้าพรรคได้อีกหรือไม่นั้น นายเศรษฐากล่าวว่า ไม่อาจก้าวล่วงสิทธิ์ของสมาชิกทุกคนไม่ได้ ต้องให้เกียรติกัน ตนเองก็มีเพียง 1 สิทธิ์ 1 เสียงเท่านั้น

สำหรับการจัดทำนโยบายที่จะแถลงตอรัฐสภานั้น เมื่อวันที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมา ได้คุยกับพรรคภูมิใจไทยแล้ว โดยมีนพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เป็นคนเจรจา กำลังรวบรวมข้อมูลอยู่ และวันนี้นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ และม.ล.ชโยทิต  กฤดากร หัวหน้าทีมเศรษฐกิจของพรรครวมไทยสร้างชาติก็จะเข้ามาพูดคุยกัน มีความคืบหน้าตลอด เราเองก็เร่งอยากให้มีการแถลงนโยบายเร็วๆหลังถวายสัตย์ฯแล้ว ประเทศจะได้เดินต่อไปข้างหน้าได้ มีหลายเรื่องที่ต้องทำ

นายเศรษฐายังกล่าวถึงการท่องเที่ยวด้วยว่า ในส่วนของเป้าในการท่องเที่ยวนั้น ในทุกเวทีได้พูดมาตลอดว่าการท่องเที่ยวเป็นตัวกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นที่ดีที่สุด ซึ่งเดือนตุลาคมนี้ก็จะเข้าช่วงไฮซีซั่นแล้ว ในช่วง 4-5 วันที่ผ่านมา ได้ลงพื้นที่ที่จ.พังงา และภูเก็ต และได้พูดคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย การบินไทย กระทรวงคมนาคมเรื่องแผนพัฒนาและการสนับสนุน มีการคุยกันด้านความปลอดภัยกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วย

สำหรับการพบปะพูดคุยกับเอกอัครราชทูตจีนได้สนับสนุนและเห็นชอบในเรื่องนี้ เรื่องนักท่องเที่ยวจีนที่เรามีความคิดจะยกเลิกการขอวีซ่าหวังว่าจะได้รับการตอบสนองที่ดีจากทุกภาคส่วน ส่วนตัวเลขจะประกาศให้ทราบว่าจะดีขึ้นอย่างไรและจะเห็นผลเมื่อไหร่