ดาวโจนส​์ดีดตัวขึ้นกว่า 200 จุด เศรษฐกิจส่อแววไม่ถดถอยแรง



.ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แอตแลนตา เผยเศรษฐกิจสหรัฐมีโอกาสขยายตัว 5.9% ในไตรมาส 3

.นักลงทุนคลายกังวลเศรษฐกิจถดถอย หันมาซื้อสินทรัพย์เสี่ยง-หุ้นสะสม

.ตลาดคาด เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย.ที่จะถึงนี้

เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 34,549.57 จุด เพิ่มขึ้น 202.67 จุด หรือ 0.59% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ 4,424.64 จุด เพิ่มขึ้น 18.93 จุด หรือ 0.43% ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส อยู่ที่ 13,661.61 จุด เพิ่มขึ้น 70.96 จุด หรือ 0.52%


นักลงทุนกลับมาซื้อหุ้นสะสม หลังคลายกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย เนื่องจากแม้่่ว่า นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า เงินเฟ้อยังคงอยู่สูงเกินไป และเฟดเตรียมปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ในในการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันศุกร์ที่ผ่านมา


แต่นายพาวเวลกล่าวเสริมว่า เฟดจำเป็นต้องดำเนินนโยบายการเงินอย่างระมัดระวัง โดยการประเมินข้อมูลที่เฟดได้รับ รวมทั้งแนวโน้มและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจ และการใช้จ่ายของประชาชน


ทั้งนี้ ในการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันศุกร์ที่ผ่านมา


“การดำเนินการน้อยเกินไปจะทำให้เงินเฟ้อที่อยู่สูงกว่าเป้าหมายของเฟดฝังตัวลึก และจะยิ่งทำให้เฟดต้องใช้นโยบายการเงินเพื่อขจัดเงินเฟ้อออกจากเศรษฐกิจ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการจ้างงาน แต่การดำเนินการที่มากเกินไปจะทำให้เศรษฐกิจเกิดผลกระทบโดยไม่จำเป็น” นายพาวเวลกล่าว


ทั้งนี้ ถ้อยแถลงของนายพาวเวลแตกต่างจากการประชุมที่เมืองแจ็กสัน โฮลในปีที่แล้ว ซึ่งเขากล่าวอย่างแข็งกร้าวว่า ภารกิจของเฟดในการต่อสู้กับเงินเฟ้อยังไม่เสร็จสิ้น โดยเฟดจะยังคุมเข้มนโยบายการเงินต่อไป ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจและตลาดแรงงาน


นอกจากนี้ นักลงทุนยังได้รับแรงหนุน เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่า แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 5.9% ในไตรมาส 3/2566 หลังจากมีการขยายตัว 2.0% และ 2.4% ในไตรมาส 1 และ 2 ตามลำดับ


หากตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐมีการขยายตัว 5.9% ในไตรมาส 3 ตามที่คาดการณ์ไว้ ก็จะเป็นการขยายตัวมากกว่า 2 เท่าจากไตรมาส 2 และแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ไตรมาส 4 ของปี 2564


ตลาดจับตาตัวเลข GDP ประจำไตรมาส 2/2566 (ประมาณการครั้งที่ 2) ที่จะมีการเปิดเผยในวันพุธ และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในวันพฤหัสบดี รวมทั้งตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์


นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. และเทน้ำหนักมากกว่า 50% ในการคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนพ.ย. และคงอัตราดอกเบี้ย ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนมี.ค.2567