

“วิโรจน์”ชี้ต้องเกาะติดรายชั่วโมงไม่รู้ 22 ส.ค.นี้ได้นายกหรือไม่ “เศรษฐา”ถูกฝ่ายอนุรักษ์นิยมทำลายเพราะอยากได้นายกฯ ตามความต้องการ
- “เศรษฐา”ถูกฝ่ายอนุรักษ์นิยมทำลาย
- เหตุอยากได้นายกฯ ตามความต้องการ
- คิดว่าควรที่จะให้กำลังใจนายเศรษฐา
วันที่ 20 ส.ค.2566 นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีวันโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี 22 ส.ค.66 ที่จะถึงนี้ คิดว่าจะได้นายกรัฐมนตรีหรือไม่ ว่า ต้องเรียกว่าเป็นเรื่องที่ต้องติดตามกันชั่วโมงต่อชั่วโมง เนื่องจากการเจรจายังอยู่ในช่วงสับสนอลหม่านกันอยู่ เมื่อถามว่า ข้อจำกัดถ้าวิเคราะห์สถานการณ์ ในวันที่ 22 ส.ค จะรอดหรือไม่ นายวิโรจน์ ระบุว่า รอดไม่รอดตนเองไม่รู้เลย เพราะสถานการณ์ตอนนี้คือโคม่า จะรอดก็อาจจะรอดจะตายก็อาจจะตายไม่สามารถตอบได้ ตอนนี้ไม่มีหมอดูคนไหนที่กล้าแทงว่าแม่น ถ้าเป็นคนไข้ก็คงจะเรียกว่าอาการเข้าตรีทูต ไม่ได้หมายความว่าตาย แต่หมายความว่าอาจจะรอดก็ได้ หรืออาจจะตายก็ได้คาดการณ์ได้ยาก
เมื่อถามว่ากรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย โดนโจมตีเรื่องคุณสมบัติและยังโดนโจมตีอยู่ต่อเนื่องนั้น มองว่านายเศรษฐา เป็นปัญหาที่จะทำให้โหวตเลือกนายกรัฐมนตรีไม่ได้หรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่า จริงๆตนเองเห็นใจนายเศรษฐาเป็นอย่างมากเพราะ ตนเองก็รู้ว่ากลุ่มอนุรักษ์นิยมหาเรื่องที่จะทำลายแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีอยู่แล้วเพื่อให้นายกรัฐมนตรีเป็นของคนที่เขาต้องการ ดังนั้น ถ้านายเศรษฐา เคลียประเด็นนี้ได้ ก็จะเจอประเด็น 2 และประเด็น 3 ต่อให้ไม่ใช่นายเศรษฐา ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามก็จะถูกกลุ่มอนุรักษ์นิยมหรือกลุ่มอำนาจเก่าที่มาจากเผด็จการรัฐประหาร ทำร้ายอยู่เรื่อยไป ด้วยข้ออ้างต่างๆ ตนเองจึงคิดว่าควรที่จะให้กำลังใจนายเศรษฐา
เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยจะดันนาย “เศรษฐา” เป็นนายกรัฐมนตรีได้หรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทย ตนเองคงไม่สามารถตอบแทนได้ รวมไปถึงความชัดเจนแถลงจับมือกันกับใครบ้าง ตนเองมองว่าทุกวันนี้ประชาชนต้องการความชัดเจน ที่มาจากพรรคที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แต่ตอนนี้ความชัดเจน กลายเป็นมาจากพรรคร่วมรัฐบาล ก็มองว่ายังไม่มีความชัดเจนแต่เป็นการตกลงกันไว้ว่า อย่าเพิ่งพูด แต่ก็คุมไว้ไม่ได้สุดท้ายก็ต้องออกมาพูด แต่ถ้าถามว่าทำไมถึงต้องออกมาพูด ก็คือเขาต้องการที่จะมัดไว้เลย ให้ดิ้นไม่หลุด สลัดไม่ออก
“ไม่เรียกว่าเหนียมแล้ว ไม่มีเหนียมแล้วยุคนี้ คิดว่า เขาก็พยายามที่จะเดินเกมเล่นเกม แต่ผมว่าต้องเลิก เพราะยุคนี้สมัยนี้ประชาชนเขามองออกกันหมดแล้ว ที่บอกว่าจะไม่มีลุงนะ แต่เขาก็คำนวณกัน คณิตศาสตร์ไม่เคยหลอกใคร ถ้าไม่เอาลุงไม่เอาพรรคประชาธิปัตย์ มันก็ 230 กว่าเสียง ก็ตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยไม่ได้ คุณอนุทินก็พูดไว้อยู่แล้วว่า รัฐบาลเสียงข้างน้อยเขาไม่ร่วม คราวนี้บอกว่าจะรวมพรรคประชาธิปัตย์แต่พรรคประชาธิปัตย์บอกว่ายังไม่มีการติดต่อเข้ามา หรือถึงติดต่อเข้ามาก็รวมเสียงได้ 260 เสียงนิดๆ ซึ่งรู้ดีอยู่แล้วว่า 260 กว่าเสียง ไม่มีเสถียรภาพอยู่แล้ว สุดท้ายก็จะต้องรวมพรรครวมไทยสร้างชาติและพรรคพลังประชารัฐมา เพียงแต่จะใช้เทคนิคกลไกยังไงในการดึงเข้ามา”