“สุทิน” มั่นใจ 22 ส.ค.นี้ ได้นายกรัฐมนตรีคนที่30 ชื่อ “เศรษฐา ทวีสิน”



“สุทิน คลังแสง ” มั่นใจ 22 ส.ค.นี้ ได้นายกฯชื่อ “เศรษฐา ทวีสิน” เชื่อ สภาฯโหวต โดยคำนึงถึงประโยชน์ประเทศ-ประชาชน

  • วันนี้ที่สังคมไทยอยากได้คืออยากให้มีนายกฯ
  • และรัฐบาลที่เข้ามาแก้ปัญหาประเทศ

วันที่ 20 สิงหาคม 2566 นายสุทิน คลังแสง ส.ส.บัญชีราชื่อ พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์การโหวตนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยเป็นนายกรัฐมนตรีในวันที่ 22 สิงหาคมนี้ ว่า คิดว่าจากการทำงาน และการประสานงานทุกฝ่ายที่ราบรื่นดี ไม่ว่าจะทางฝ่าย สว. หรือพรรคการเมือง เราพยายามทำตามข้อประสงค์ของทุกๆฝ่ายเพื่อให้ทำงานร่วมกันได้อย่างสบายใจ ดังนั้น จึงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะปฏิเสธนายเศรษฐา

นอกจากนี้ นายเศรษฐา ถือว่าเป็นแคนดิเดตนายกฯที่มาตามระบบของกฎหมายทุกประการ ทั้งผ่านการคัดกรองจากพรรคเพื่อไทย ผ่านการตรวจคุณสมบัติจาก กกต. และผ่านการเลือกตั้งมา ส่วนประเด็นที่หลายคนวิตก หรือที่มีการพยายามสร้างให้เกิดความวิตกโดยนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง พยายามกล่าวหา ประเด็นนี้ทางพรรคเพื่อไทยก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ทุกประเด็นพรรคมีคณะทำงานได้ตรวจสอบเรื่องนี้อย่างรอบด้านในทุกเรื่องที่ถูกนายชูวิทย์กล่าวหา ซึ่งจากการที่ได้ตรวจสอบมาทั้งหมดจนถึงวันนี้คณะทำงานเล็งเห็นว่าเรื่องนี้สามารถเข้าใจได้ง่ายๆ และนายเศรษฐาไม่น่าจะเป็นอย่างที่นายชูวิทย์กล่าวหา และมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไม่ชอบกันส่วนตัวของนายชูวิทย์ และมีความพยายามดิสเครดิตกัน ซึ่งเรื่องนี้นายเศรษฐา และทางบริษัทแสนสิริได้แถลงชี้แจงแก่ประชาชนอย่างละเอียดให้เข้าใจแล้ว

“เข้าใจว่ากระบวนการทั้งหมดของนายชูวิทย์คือต้องการไม่ให้นายเศรษฐาเป็นนายกฯ นี่เป็นสิทธิพลเมืองของนายชูวิทย์ แต่คนที่จะเลือกนายเศรษฐาในสภาจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เขาจะเลือกเพื่อประชาชน ไม่ใช่เลือกเพื่อให้ถูกใจใครคนใดคนหนึ่ง และคงไม่มีใครเอาปัญหาไม่ชอบกันส่วนตัวมาเป็นปัญหาของประเทศ” นายสุทินกล่าว

นายสุทินกล่าวว่า เชื่อว่าวันที่ 22 สิงหาคมนี้ ได้นายกฯชื่อเศรษฐา ทวีสิน เพราะวันนี้สมาชิกรัฐสภาฟังเสียงสังคมอยู่ ซึ่งสังคมวันนี้อยากให้ได้นายกฯ โดยเราผ่านการเลือกตั้งมาเกือบจะ 3 เดือนแล้ว แต่ยังไม่มีนายกฯ และรัฐบาลมาทำงานเสียที ไม่มีใครที่คนจะชอบตรงกันหมดทั้ง 100% แต่วันนี้ที่สังคมไทยอยากได้คืออยากให้มีนายกฯ และรัฐบาลที่เข้ามาแก้ปัญหาประเทศ เพราะหากปล่อยให้ยืดเยื้อไปไม่น่าจะเป็นผลดีต่อประเทศ และประชาชน