เงินเฟ้อ เดือนก.ค.66 เท่ากับ 107.82 เพิ่มขึ้น 0.38% ผลจากราคาสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น 329 รายการ
- ส.ค.ส่อเพิ่มต่อหลังราคาอาหารสดจ่อขึ้นจากภัยแล้ง
- ส่วน 5 เดือนที่เหลือคาดเพิ่มต่ำกว่า 1% ทุกเดือน
- สนค.ย้ำทั้งปี 66 ไม่เกินเป้าโต 1.0-2.0% แน่นอน
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (เงินเฟ้อทั่วไป) เดือนก.ค.66 เท่ากับ 107.82 เพิ่มขึ้น 0.38% เทียบกับเดือนก.ค.65 และเพิ่มขึ้น 0.01% เทียบกับเดือนมิ.ย.66 โดยเป็นผลจากราคาสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น 329 รายการ เช่น ไข่ไก่ ข้าวราดแกง อาหารตามสั่ง กับข้าวสำเร็จรูป ค่าไฟฟ้า ก๊าซหุงต้ม ค่าเช่าบ้าน แต่มีสินค้าที่ราคาลดลง 63 รายการ เช่น ข้าวสาร เนื้อหมู กุ้ง น้ำมันพืช ผักชี และสินค้าราคาเท่าเดิม 38 รายการ เช่น รองเท้า ค่ารถไฟฟ้า ค่าเก็บขยะ
“เงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น 0.38% แม้จะขยับขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อน ที่อยู่จุดต่ำสุดรอบ 22 เดือน แต่ยังถือว่าอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับเงินเฟ้อหลายประเทศทั่วโลก และยังต่ำที่สุดในอาเซียน 7 ประเทศ สาเหตุสำคัญมาจากการลดลงของสินค้าในกลุ่มอาหาร โดยเฉพาะสุกรและเครื่องประกอบอาหารที่ลดลง 3 เดือนติด ขณะที่น้ำมันเชื้อเพลิงลดติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 ส่วนเงินเฟ้อเฉลี่ย 7 เดือน (ม.ค.-ก.ค.) ปี 66 เพิ่มขึ้น 2.19% ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐานเดือนก.ค.66 เมื่อหักอาหารสดและพลังงานออก เพิ่ม 0.04% เมื่อเทียบเดือน มิ.ย.66 และเพิ่ม 0.86% เทียบเดือน ก.ค.65 รวม 7 เดือนเพิ่มขึ้น 1.73%”
สำหรับแนวโน้มเงินเฟ้อเดือน ส.ค.66 คาดจะยังเพิ่มขึ้นไม่มาก เพราะได้รับแรงกดดันจากสินค้าอาหารบางประเภทที่ยังขยายตัว จากปัญหาภัยแล้ง ทำให้ผลผลิตลดลง, ราคาอาหารสำเร็จรูปอยู่ในระดับสูง, ราคาน้ำมันมีแนวโน้มสูงขึ้นจากการลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปก, ความขัดแย้งของรัสเซีย-ยูเครน และฐานที่ใช้คำนวณของเดือน ส.ค.65 ยังอยู่ในระดับสูง
พร้อมกันนี้ คาดว่า ในช่วงที่เหลืออีก 5 เดือนนับจากนี้ เงินเฟ้อจะขยายตัวต่ำกว่า 1% ทุกเดือน และทั้งปีจะอยู่ในเป้าหมายที่ 1-2% ค่ากลาง 1.5% ภายใต้สมมติฐาน ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) เพิ่ม 2.7-3.7% ราคาน้ำมันดิบดูไบ 71-81 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และค่าเงินบาท 33.5-35.5 บาทต่อเหรียญฯ โดยหากปัจจัยต่างๆ มีการเปลี่ยนแปลง หรือมีปัจจัยเสี่ยงที่กระทบเงินเฟ้อ ทั้งน้ำมัน ภัยแล้ง เศรษฐกิจโลก ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ เดือน ก.ย.66 จะมีการทบทวนเป้าหมายเงินเฟ้ออีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม การที่เงินเฟ้อลดลง ไม่ได้เป็นเพราะกำลังซื้อของประชาชนลดลงเป็นสำคัญ แต่สาเหุตหลักขณะนี้ มาจากราคาน้ำมันที่ลดลงมากเมื่อเทียบกับปีก่อน แต่คาดว่า เรื่องกำลังซื้อ อีกระยะหนึ่งจึงจะมีผลทำให้เงินเฟ้อลดลง หากการจัดตั้งรัฐบาลยังล่าช้ากว่ากำหนดมาก เนื่องจากจะมีผลต่อการตัดสินใจลงทุนของนักลงทุนทั้งไทย และต่างชาติ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการจ้างงาน การบริโภคในประเทศ การท่องเที่ยว
สำหรับภาระค่าใช้จ่ายของครัวเรือนเดือนก.ค.66 อยู่ที่ 18,130 บาท ลดจากเดือนมิ.ย.66 ที่อยู่ที่ 18,132 บาท โดยมีค่าใช้จ่ายเป็นต่าโดยสารธารณะ น้ำมันเชื้อเพลิง บริการโทรศัพท์มือถือมากสุดที่ 4,208 บาท ตามด้วย ค่าเช่าบ้าน วัสดุก่อสร้าง ค้าไฟฟ้า ก๊าซหุงต้ม เครื่องใช้ไฟฟ้า 4,037 บาท, เนื้อสัตว์ 1,678 บาทฅ อาหารบริโภคในบ้าน 1,641 บาท, อาหารบริโภคนอกบ้าน 1,254 บาท, ผัก และผลไม้ 1,027 บาท เป็นต้น
