

สทท. ชี้ตั้งรัฐบาลช้า ฉุดเชื่อมั่นกระทบเป้าท่องเที่ยวในแง่รายได้-จำนวน ด้าน “แอตต้า” เผยภาคเอกชนท่องเที่ยวรอนโยบายรัฐบาลใหม่ไม่กล้าวางแผนท่องเที่ยว
- ฉุดเชื่อมั่นนักท่องเที่ยว
- กระทบเป้าท่องเที่ยวในแง่รายได้
- ภาคเอกชนไม่ยอมวางแผนท่องเที่ยวรอรัฐบาลใหม่
นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) เปิดเผยว่า จากการจัดตั้งรัฐบาลล่าช้า ทำให้ สทท. ลดเป้าประมาณการณ์นักท่องเที่ยวต่าชาติลงปีนี้ลงมาเหลือ 28 ล้านคน จากเดิมที่ประเมินว่าจะได้ 28 – 30 ล้านคน ซึ่งจะทำให้รายได้จากการท่องเที่ยวหายไปประมาณ 100,000 ล้านบาท ไม่ถึงเป้ารายได้ 2.38 ล้านล้านบาท ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยประมาณการณ์ไว้
ทั้งนี้เนื่องความล่าช้าของงบประมาณที่จะมาตุ้นการท่องเที่ยวในช่วงโลว์ซีซั่นหรือนอกฤดูกาลท่องเที่ยวในช่วงไตรมาส 3 (ก.ค.-ก.ย.) ขณะเดียวกันยังห่วงม็อบลงถนนซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นต่อนักท่องเที่ยว
สำหรับจำนวนนักท่องเที่ยวในช่วงไตรมาสที่ 1 เป็นไปตามเป้าหมายที่จำนวน 6 ล้านคน และไตรมาส 2 ได้จำนวน 7 ล้านคน ถือว่าได้ตามเป้า แต่ที่น่าเป็นห่วงคือไตรมาสที่ 3 เพราะเป็นช่วงโลว์ซีซั่นไม่มีงบประมาณมากระตุ้นการท่องเที่ยว ทำให้นักท่องเที่ยวหายไป คาดว่าไตรมาส3 จำนวนนักท่องเที่ยวน่าจะไม่ได้ตามเป้าที่ 8 ล้านคนหรือนักท่องเที่ยวหายไปประมาณ 2 ล้านคน ส่วนไตรมาส 4 มีโอกาสลุ้นที่จะได้นักท่องเที่ยว 9 ล้านคนตามเป้า ทำให้ภาพรวมทั้งปีน่าจะถึง 28 ล้านคนแต่ไม่ถึง 30 ล้านคน
ด้านนายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) กล่าวว่า ไม่มีความเห็นอะไรก็เป็นไปตามรูปแบบของการเมือง ส่วนการจัดตั้งรัฐบาลช้ากระทบอยู่แล้วเพราะหลายเรื่องรอรัฐบาลใหม่มาแก้ปัญหา เพราะฉะนั้นจะให้นักท่องเที่ยวมีแผนในการเดินทางท่องเที่ยวหรือภาคธุรกิจท่องเที่ยวที่จะวางแผนการตลาดก็ต้องรอรัฐบาลใหม่มีนโยบายที่ชัดเจน ซึ่งตอนนี้ก็กระทบมาก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวกลุ่มทัวร์ที่เข้ามาตอนนี้ยังไม่มากเท่าที่ควร
แต่ทำอย่างไรให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเท่ากับสถานการณ์ปกติให้ได้ ซึ่งต้องรอนโยบายรัฐบาลใหม่เข้ามากระตุ้นตลาด เพื่อให้นักท่องเที่ยวเกิดแรงจูงใจหรือสนใจที่จะมาท่องเที่ยวประเทศไทย เดินทางท่องเที่ยวประเทศอื่นแล้วเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยต่อ