.นักลงทุนกลับมาซื้อหุ้น หลังประกาศดัชนี PCE ทั่วไป ชะลอตัวลงดีกว่าที่คาด
.ตลาดสบายใจการคาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐฯ ไตรมาสแรกสูงกว่าที่คาด ลดโอกาสเศรษฐกิจถดถอย
.ราคาหุ้นแอปเปิลพุ่งขึ้น ดันบริษัทแอปเปิล อิงค์ มีมูลค่าตลาดมากกว่า 3 ล้านล้านดอลลาร์ เป็นครั้งที่ 2
เมื่อเวลาประมาณ 22.10 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เคลื่อนไหวที่ระดับ 34,364.37 จุด เพิ่มขึ้น
241.95 จุด หรือ+0.69% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 13,792.17 จุด เพิ่มขึ้น 200.84 จุด หรือ +1.48% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ระดับ 4,445.94 จุด เพิ่มขึ้น 49.50 จุดหรือ +1.13%
นักลงทุนขานรับเงินเฟ้อที่ชะลอตัว โดยการเข้าซื้อหุ้นสะสม หลังกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ซึ่งบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว โดยดัชนี PCE ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 3.8% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 4.3% ในเดือนเม.ย.เทียบรายเดือน ดัชนี PCE ทั่วไป ปรับตัวขึ้น 0.1% ในเดือนพ.ค. จากระดับ 0.4% ในเดือนเม.ย.
ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ ปรับตัวขึ้น 4.6% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.7% จากระดับ 4.7% ในเดือนเม.ย.
เทียบรายเดือน ดัชนี PCE พื้นฐานปรับตัวขึ้น 0.3% สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ จากระดับ 0.4% ในเดือนเม.ย.
ตลาดได้รับแรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งวานนี้ โดยตัวเลขประมาณการครั้งสุดท้ายของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 1/2566 ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.0% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.4% ขณะที่ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 26,000 ราย สู่ระดับ 239,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 265,000 ราย
บริษัทแอปเปิล อิงค์ มีมูลค่าตลาดมากกว่า 3 ล้านล้านดอลลาร์ในการซื้อขายวันนี้ หลังราคาหุ้นแอปเปิลพุ่งขึ้น 1.53% สู่ระดับ 192.48 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งถือเป็นครั้งที่ 2 ที่แอปเปิลทำสถิติเป็นบริษัทจดทะเบียนแห่งแรกของสหรัฐและของโลกที่มีมูลค่าตลาดมากกว่า 3 ล้านล้านดอลลาร์ในการซื้อขายระหว่างวันของวันที่ 22 ม.ค.2565 แต่แอปเปิลไม่สามารถรักษาสถิติขณะปิดตลาดในวันดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงมีความกังวลหลังประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ โดยมองว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% ในประชุมครั้งหน้า นอกจากนั้นยังวิตกเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจจีน หลังมีข้อมูลบ่งชี้ว่ากิจกรรมในภาคการผลิตของจีนหดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะปิดฉากการซื้อขายเดือนมิ.ย. รวมทั้งสิ้นสุดไตรมาส 2 และช่วงครึ่งปีแรกของปี 2566 ในวันนี้โดยภาพรวมดัชนีทั้ง 3 ตลาดปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง
