ดาวโจนส์ดีดบวกกว่า 270 จุด นักลงทุนช้อนซื้อหุ้น หลังเฟดตรึงดอกเบี้ยนโยบาย



  • มีแรงซื้อกลับเข้ามาในตลาดหุ้นสหรัฐ ฯ หลังเฟดตรึงดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมวานนี้
  • ตลาดหุ้นลดความผันผวน เห็นภาพดอกเบี้ยชัดหลังจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย 0.25% อีก 2 ครั้งในปีนี้
  • นักลงทุนจับตาตัวเลขเศรษฐกิจแสดงอาการชะลอตัว ยอดค้าปลีกชะลอ-คนว่างงานไม่ลด

เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เคลื่อนไหวที่ระดับ 34,252.06 จุด เพิ่มขึ้น 272.73 จุด หรือ +0.80% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 13,685.43 จุด เพิ่มขึ้น 58.95 จุด หรือ +0.43% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ระดับ 4,396.59 จุด เพิ่มขึ้น 24.00 จุด หรือ +0.55%

มีแรงซื้อกลับมาส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้น หลังมีแรงเทขายทำกำไร และลดความเสี่ยง วานนี้เพื่อรอผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) นักลงทุนเทน้ำหนักต่อคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนก.ค. หลังจากเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.00-5.25%ตามคาด แต่ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งภายในสิ้นปีนี้

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 71.9% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 25-26 ก.ค. และให้น้ำหนักเพียง 28.1% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.00-5.25%

สอดคล้องกับการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (dot plot) เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% อีก 2 ครั้ง สู่ระดับ 5.6% หรือบ่งชี้กรอบอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 5.50-5.75% ภายในสิ้นปีนี้ ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่เฟดคาดว่าเฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2567 โดยจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยรวม 1.00% ในปีดังกล่าว

โดย dot plot บ่งชี้ว่า อัตราดอกเบี้ยจะแตะระดับ 4.6% ในช่วงสิ้นปี 2567 และแตะระดับ 3.4% ในช่วงสิ้นปี 2568 โดยเพิ่มขึ้นจากตัวเลขคาดการณ์ในเดือนมี.ค.ที่ระดับ 4.3% และ 3.1% ตามลำดับ

ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาส่งสัญญาณชะลอตัวต่อเนื่อง โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนพ.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนเม.ย.ส่วนยอดค้าปลีกพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมยอดขายรถยนต์ น้ำมัน วัสดุก่อสร้าง และอาหาร เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนพ.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนเม.ย.

ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกอยู่ที่ระดับ 262,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ไม่เปลี่ยนแปลงจากสัปดาห์ก่อนหน้า และเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2564 และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 235,000 ราย ขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่อง เพิ่มขึ้น 20,000 ราย สู่ระดับ 1.78 ล้านราย