

- พาณิชย์ออกประกาศ 2 ฉบับมีผลเดือนก.ค.และส.ค.นี้
- ส่วนส่งออกไม้ท้อน ไม้แปรรูปต้องขออนุญาตกรมป่าไม้
- แนะผู้นำเข้า ส่งออกศึกษาข้อมูลให้ดีเพื่อปฏิบัติได้ถูกต้อง
นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 18 พ.ค.66 ราชกิจจานุเบกษาได้ลงประกาศกระทรวงพาณิชย์ว่าด้วยการนำเข้าและส่งออกสินค้าไม้และผลิตภัณฑ์จำนวน 2 ฉบับ ซึ่งจะมีผลห้ามนำเข้า และส่งออกไม้พะยูงและผลิตภัณฑ์ หรือต้องขออนุญาตการนำเข้า โดยฉบับแรก เรื่อง กำหนดให้ไม้ท่อน ไม้แปรรูป และสิ่งประดิษฐ์ของไม้เป็นสินค้าที่ต้องห้ามหรือต้องมีหนังสือรับรองในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. 2566 มีผลใช้บังคับวันที่ 17 ก.ค.66 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ ประกาศฉบับนี้กำหนด 1.ห้ามนำเข้าไม้ท่อนทางด่านศุลกากรในเขตจังหวัดตาก กาญจนบุรี แม่ฮ่องสอน และไม้แปรรูปทางด่านศุลกากรในเขตจังหวัดแม่ฮ่องสอน รวมทั้งห้ามนำเข้าไม้พะยูงท่อน ไม้พะยูงแปรรูป สิ่งประดิษฐ์ที่ทำจากไม้พะยูง ที่นำเข้าจากกัมพูชาและลาว และ2.ไม้ท่อน ไม้แปรรูป และสิ่งประดิษฐ์ของไม้ นอกเหนือจากที่ห้ามนำเข้าข้างต้น สามารถนำเข้าได้โดยต้องมีหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า (C/O) หรือหลักฐานการอนุญาตให้ส่งออกแสดงต่อกรมศุลกากร

ส่วนฉบับที่ 2 เรื่อง กำหนดให้ไม้พะยูงเป็นสินค้าที่ต้องห้าม ให้ไม้ท่อน ไม้แปรรูป และไม้ล้อมบางชนิด เป็นสินค้าที่ต้องขออนุญาต และให้สิ่งประดิษฐ์ของไม้และถ่านไม้เป็นสินค้าที่ต้องมีหนังสือรับรอง ในการส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พ.ศ. 2566 ซึ่งจะมีผลใช้บังคับวันที่ 16 ส.ค.66 เป็นต้นไป โดยกำหนด 1.ห้ามส่งออกไม้พะยูงท่อน ไม้พะยูงแปรรูป ไม้พะยูงล้อม สิ่งประดิษฐ์ ที่ทำจากไม้พะยูง 2.ไม้ท่อน ไม้แปรรูป นอกเหนือจากที่ห้ามส่งออกข้างต้น สามารถส่งออกได้โดยต้องขออนุญาตส่งออก 3.สิ่งประดิษฐ์ของไม้และถ่านไม้ต้องมีหนังสือรับรองเพื่อการค้าหรือการส่งออกตามกฎหมายว่าด้วยป่าไม้ และ4.ไม่บังคับกรณีการส่งออกไม้ยางพารา
“ในการออกใบอนุญาตส่งออก กรมต้องออกระเบียบกระทรวงพาณิชย์ใกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเสนอให้รมว.พาณิชย์ลงนามในระเบียบกระทรวงพาณิชย์ว่าด้วยการอนุญาตให้ส่งไม้ท่อน ไม้แปรรูป และไม้ล้อมบางชนิด ออกไปนอกราชอาณาจักร พ.ศ. 2566 โดยจะมอบอำนาจให้กรมป่าไม้เป็นหน่วยงานออกใบอนุญาตส่งออกเพียงหน่วยงานเดียว เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่มาติดต่องาน ซึ่งในระหว่างที่ประกาศ 2 ฉบับยังไม่มีผลใช้บังคับ ขอให้ผู้ต้องการนำเข้า-ส่งออก ศึกษาและทำความเข้าใจข้อกำหนดและเงื่อนไขให้ถูกต้องชัดเจน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในทางปฏิบัติ สอบถามเพิ่มเติมสายด่วนกรม โทร. 1385 หรือ โทร. 0 2547 5120”