

.นักลงทุนคาดมีโอกาสขยายเพดานหนี้รัฐบาลสหรัฐฯ สำเร็จ หลัง ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีทีท่าอ่อนลง
.ตลาดจับตาทิศทางดอกเบี้ยเฟด และสัญญาณจากถ้อยแถลงนายเจอโรม พาวเวล วันพรุ่งนี้
. FedWatch Tool ระบุ นักลงทุนให้น้ำหนัก 36.7% คาดเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25%ในการประชุมเดือน มิ.ย.
เมื่อเวลาประมาณ 22.05 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เคลื่อนไหวที่ระดับ 33,470.85 จุดเพิ่มขึ้น
50.08 จุด หรือ +0.15% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 12,633.60 จุด เพิ่มขึ้น 133.04 จุด หรือ +1.06% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ระดับ 4,183.31 จุด เพิ่มขึ้น 24.54 จุด หรือ +0.59%
ตลาดหุ้นสหรัฐฯแกว่งตัวผันผวน โดยอยู่ในแดนลบในช่วงแรก และพลิกกลับมายืนในแดนบวก นักลงทุนจับตาความคืบหน้าในการเพิ่มเพดานหนี้สหรัฐ รวมทั้งถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)ซึ่งมีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ในงานเสวนา Thomas Laubach Research Conference ว่าด้วยนโยบายการเงิน ซึ่งเฟดจะจัดขึ้นในวันพรุ่งนี้ที่กรุงวอชิงตัน ดีซี
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ได้รับข่าวดี หลังนายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ กล่าวว่า เขามีความเชื่อมั่นว่าคณะทำงานของทำเนียบขาวและสภาคองเกรสจะสามารถบรรลุข้อตกลงเพิ่มเพดานหนี้ก่อนที่สภาผู้แทนราษฎรจะจัดการลงมติในญัตติดังกล่าวในสัปดาห์หน้า โดยผมเห็นแนวทางที่เราจะสามารถบรรลุข้อตกลง ขณะที่ทุกคนทำงานกันอย่างหนัก
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนกลับมากังวลการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ในเดือนมิ.ย. โดยเพิ่มคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนมิ.ย. หลังจากที่เจ้าหน้าที่เฟดหลายรายต่างกล่าวสนับสนุนการเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 36.7% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 13-14 มิ.ย. หลังจากที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วให้น้ำหนักเพียง 10.7%
ทั้งนี้ นางลอรี โลแกน ประธานเฟดสาขาดัลลัส กล่าวในวันนี้ว่า ข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดไม่ได้สนับสนุนให้เฟดชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย. ขณะที่ นายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟด สาขานิวยอร์ก กล่าวว่า เฟดสามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หากเงินเฟ้อไม่ได้ปรับตัวลง และเขายังมองไม่เห็นเหตุผลในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ อย่างไรก็ดี เขาจะนำวิกฤตในภาคธนาคาร และผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อการขยายตัว การจ้างงานและเงินเฟ้อ เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ใช้ประกอบการพิจารณาแนวโน้มนโยบายอัตราดอกเบี้ย
ด้านนายราฟาเอล บอสติก ประธานเฟด สาขาแอตแลนตา กล่าวว่า เขาคาดว่าเฟดจะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ เนื่องจากเงินเฟ้อมีแนวโน้มที่จะปรับตัวอยู่ในระดับสูงนานกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ โดยเฝ้ารอเพื่อดูว่าเศรษฐกิจได้ชะลอตัวมากน้อยเพียงใดจากการดำเนินนโยบายของเรา และเขายังคงสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป มากกว่าที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย