

.ตลาดหุ้นสหรัฐฯ รอติดตามทิศทางดอกเบี้ยในการประชุมเฟดวันที่ 2-3 พ.ค.
. นักลงทุนให้น้ำหนัก 90% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมครั้งนี้
.เฟดชิคาโกชี้ดัชนีกิจกรรมทางเศรษฐกิจทรงตัวในเดือนมี.ค. ยังไม่เข้าสู่ภาวะถดถอย
เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เคลื่อนไหวที่ระดับ 33,824.22 จุด เพิ่มขึ้น
15.26 จุด หรือ +0.05% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 12,010.71 จุด ลดลง 61.75 จุด หรือ -0.51% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ระดับ 4,126.07 จุด ลดลง 7.45 จุด หรือ -0.18%
นักลงทุนรอดูทิศทางดอกเบี้ยจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังจากเริ่มเข้าสู่ช่วงงดเว้นการแสดงความเห็น (Blackout Period) ของเจ้าหน้าที่ระดับสูง ก่อนที่เฟดจะจัดการประชุมกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ในวันที่ 2-3 พ.ค. ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะบริษัทขนาดใหญ่ในกลุ่มเทคโนโลยี
ทั้งนี้ กฎระเบียบของเฟดได้ระบุห้ามเจ้าหน้าที่เฟดแสดงความเห็นต่อสาธารณะ หรือให้สัมภาษณ์ในช่วง Blackout Period เกี่ยวกับนโยบายการเงิน โดยเริ่มตั้งแต่วันเสาร์ที่สองก่อนที่การประชุม FOMC จะเริ่มขึ้น และสิ้นสุดในวันพฤหัสบดีหลังการประชุม FOMC
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 90% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 2-3 พ.ค. และให้น้ำหนักเพียง 10% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.75-5.00%
ทั้งนี้ แม้ว่าสหรัฐฯ จะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่ชะลอตัวลง แต่ดัชนีดังกล่าวยังคงอยู่สูงกว่าเป้าหมาย 2% ของเฟด นอกจากนั้น ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ผู้บริโภคคาดว่าเงินเฟ้อจะพุ่งแตะระดับ 4.6% ในช่วง 1 ปีข้างหน้า สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์เดิมเมื่อเดือนที่แล้วที่ระดับ 3.6%
ทั้งนี้ ในรายงานการประชุมประจำเดือนมี.ค.ของเฟด ที่ผ่านมาระบุว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% เนื่องจากกังวลว่าเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง แม้เจ้าหน้าที่เฟดบางรายแสดงความกังวลว่าวิกฤตการณ์ในภาคธนาคารจะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยก็ตาม
ด้านภาพรวมเศรษฐกิจ ดัชนีกิจกรรมทางเศรษฐกิจทรงตัวในเดือนมี.ค.โดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโก เปิดเผยว่า ดัชนี Chicago Fed National Activity Index (CFNAI) ยังคงอยู่ที่ระดับ -0.19 ในเดือนมี.ค. ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนก.พ. แต่ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ -0.25 อย่างไรก็ดี ดัชนี CFNAI ยังคงมีค่าเป็นลบ ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวของเศรษฐกิจที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต
นักวิเคราะห์ระบุว่า ดัชนี CFNAI ถือเป็นตัวชี้วัดที่ดีที่สุดในการประเมินความเสี่ยงในการเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐ
%%%%%
นักลงทุนจับตาดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ที่จะมีการเปิดเผยในวันที่ 28 เม.ย. โดยดัชนีดังกล่าวเป็นข้อมูลเงินเฟ้อสำคัญตัวสุดท้ายก่อนที่เฟดจะจัดการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 2-3 พ.ค.