

วันนี้ (19 เม.ย.66) นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย แถลงข่าวต่อกรณีที่มีการประกาศว่าจะมีการจัดงานข้าวสาร 420 ในวันที่ 20 เมษายน 2566 โดยกิจกรรมดังกล่าวจะมีการรวมตัวกันเพื่อสูบบ้องบริเวณถนนข้าวสารถนนรามบุตรี และจะมีการรวมตัวเดินขบวนพาเหรดกัน การดำเนินกิจกรรมดังกล่าว เกิดข้อห่วงใยจากสังคม ถึงความถูกต้องเหมาะสมของการจัดกิจกรรม ทางพรรคภูมิใจไทยยืนยันถึงจุดยืนของกรณีดังกล่าว และเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับกัญชาดังนี้
1. จุดยืนพรรคภูมิใจไทยคือ สนับสนุนกัญชาเพื่อการดูแลรักษาสุขภาพของประชาชน โดยพรรคได้แสดงจุดยืนด้วยการเสนอร่างพระบัญญัติกัญชา กัญชง เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร เพราะพรรคภูมิใจไทยตั้งมั่นว่าประเทศไทยจะต้องมีกฎหมายควบคุมการใช้กัญชาจึงจะทำให้การใช้ และการคุ้มครองผู้บริโภคเกิดความสมดุลแม้ว่ากฎหมายดังกล่าวจะได้รับการขัดขวางจากทางการเมือง แต่พรรคก็ยังยืนยันว่า ประเทศไทยต้องมีกฎหมายควบคุมกัญชา โดยจะต้องผลักดันกฎหมายพระราชบัญญัติกัญชา กัญชง ให้มีผลบังคับใช้ต่อไป
2. เกี่ยวกับกิจกรรมที่เกิดขึ้น ในการจัดงานกัญชาทั่วประเทศ พรรคภูมิใจไทยมีจุดยืนว่าการจัดกิจกรรมใดๆ ก็ตาม จะต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยในขณะนี้กัญชาเป็นพืชสมุนไพรตามพระราชบัญญัติผลิตภัณฑ์สมุนไพร พ.ศ. 2562 การดำเนินการใดเกี่ยวกับกัญชาจะต้องเป็นการไม่ละเมิดกฎหมาย โดยเฉพาะการคุ้มครองผู้ไม่ใช้กัญชา และการใช้กัญชาโดยวิธีการสูบในพื้นที่สาธารณะ ฉะนั้นการจัดกิจกรรม Khaosan420 ที่จะมีขึ้นในวันที่20 เมษายน 2566 ไม่ได้อยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย และอาจก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ประชาชนทั่วไป และไม่เหมาะสม พรรคภูมิใจไทยจึงขอเรียกร้องให้ผู้เตรียมการจัดงาน ให้ยกเลิกงานนี้
3.ปัญหาที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับกัญชาโดยเฉพาะการสูบ และการคุ้มครองผู้บริโภค จะอยู่ในกรอบและขอบเขตที่ถูกต้องหากสภาผู้แทนราษฎรผ่านกฎหมายระเบียบกัญชา กัญชง เพราะในกฎหมายฉบับนี้ได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ห้ามใช้กัญชาโดยวิธีการสูบในพื้นที่สาธารณะ มีบทลงโทษที่รุนแรง หากกระทำผิดต่อผู้บริโภค โดยเฉพาะเด็ก และเยาวชนรวมถึงการควบคุมกระบวนการปลูก กระบวนการผลิต กระบวนการขาย กระบวนการแปรรูป โดยทุกขั้นตอนที่เกี่ยวข้องกับกัญชา ไม่มีขั้นตอนไหนที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของกฎหมายพ.ร.บ.กัญชา กัญชง
แต่เมื่อสภาผู้แทนราษฎรไม่ผ่านร่างพ.ร.บ. ดังกล่าว ก็ทำให้มีปัญหาเกิดขึ้นในขณะนี้ ซึ่งพรรคภูมิใจไทยเห็นว่าเกิดจากพรรคการเมืองที่คัดค้านไม่ยอมผ่านกฎหมายฉบับนั้น จนทำให้ประชาชนสับสนเข้าใจผิดว่า เวลานี้กัญชาเสรี ใครสูบที่ใดก็ได้ ทุกสถานที่ แม้เป็นที่สาธารณะซึ่งเป็นความสับสนที่ได้ถูกสร้างขึ้นมาให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิดเพราะฉะนั้น ขอเรียกร้องหน่วยงานของรัฐ ให้บังคับใช้กฎหมาย โดยเคร่งครัด และพรรคภูมิใจไทยยืนยันว่า เราไม่สนับสนุนในพฤติการณ์ดังกล่าวที่จะเกิดขึ้น เพราะนี่ไม่ใช่เป็นเป้าหมายของพรรคภูมิใจไทย ที่ต้องการนำมาใช้เพื่อทางการแพทย์ เพื่อสุขภาพส่วนบุคคล และเพื่อเศรษฐกิจเท่านั้น แต่เราคัดค้านเพื่อนำไปใช้นันทนาการโดยไม่จำกัดพื้นที่
4. การสูบกัญชาในที่สาธารณะมีความผิดตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุขปี 2535 มาตรา 74 ซึ่งมีโทษทางอาญาพรรคภูมิใจไทยจะสนับสนุนให้ใช้กัญชาเพื่อดูแลสุขภาพของพี่น้องประชาชน และการดำเนินการใดๆ ก็ตามจะต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย และความเหมาะสมของทางสังคม พรรคภูมิใจไทยจะไม่สนับสนุนให้เกิดกิจกรรมที่เกินขอบเขตจากการดูแล และรักษาสุขภาพของพี่น้องประชาชน และขอเรียกร้องให้ยกเลิกการจัดงานครั้งนี้ ซึ่งสิ่งที่พรรคภูมิใจไทยได้ทำมาโดยตลอดว่าสิ่งเหล่านี้ต้องเป็นการได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ที่สำคัญคือพฤติกรรมดังกล่าวดูเหมือนว่าจะทำให้เกิดอุปสรรคในการที่พวกเราร่วมกันพยายามที่จะทำให้ประชาชน ผู้ป่วย กลุ่มประชาสังคมนักวิชาการ แพทย์ จำนวนมากที่ผลักดันให้กัญชาถูกกฎหมายเพื่อใช้รักษาอาการเจ็บป่วยสารพัดโรค
ซึ่งวันนี้กระทรวงสาธารณสุขเองก็ได้ศึกษา และเห็นว่า กัญชาสามารถใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ในโรคจำนวนมากวันนี้เรากำลังผลักดันเต็มที่ให้กัญชากลับมาเป็นยาสมุนไพรให้ประชาชนใช้ดูแลตัวเอง จึงขอฝากไปถึงผู้จัดกิจกรรมครั้งนี้ให้ย้อนกลับไปในวันที่เราต้องต่อสู้กันอย่างหนัก เพื่อให้สิทธิของผู้ป่วยจำนวนหลายล้านคนให้มีโอกาสได้ใช้ประโยชน์อย่างปลอดภัย วันนี้มีคนพยายามที่จะเอากัญชากลับไปเป็นยาเสพติด เพราะฉะนั้นเรียกร้องทุกท่านว่าจะต้องร่วมกันทำกิจกรรมอย่างสร้างสรรค์ เพื่อให้กัญชาได้กลับมายืนอย่างสง่าผ่าเผย เป็นพืชผักเศรษฐกิจ เราจะไม่ยอมให้กัญชาถูกกล่าวหาถูกใส่ร้ายว่าเป็นยาเสพติด และจะกลับมาให้เป็นสมุนไพร เหมือนที่เราเคยได้ใช้ประโยชน์กันมาตั้งแต่เก่าแก่โบราณให้ได้กลับมา รวมทั้งเราจะต้องร่วมกันที่จะผลักดันให้กัญชาสามารถเป็นพืชเศรษฐกิจสร้างรายได้ให้กับประเทศ ให้กับประชาชนที่ได้มีการปลูกกัญชาในการสร้างรายได้ให้กับตัวเองต่อไป
“ขอเรียกร้องเจ้าหน้าที่รัฐ กระทรวงสาธารณสุข, กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก, กรมอนามัย, เทศกิจ, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไปดำเนินการว่าการที่ไปเอาบ้องมาสูบในที่สาธารณะมันผิดกฎหมาย ต้องถูกดำเนินคดีผิดมาตรา 74 ของพระราชบัญญัติการสาธารณสุข มีโทษทางอาญา สิทธิในฐานะพรรคการเมืองสามารถทำได้เท่านี้” นายศุภชัย กล่าว