

- ททท.โชว์จัด “Amazing Thailand : Meet the Influencers 2023” ปี’66 หันพึ่งพลังสื่อเซียลออนไลน์
- นำ 350 influencer ดึง 55 ล้านผู้ติดตาม จับคู่เจรจาธุรกิจ ร่วมปลุกกระแสเที่ยวไทยปีเถาะ
- ชู 4 เรื่อง “ซอฟท์เพาเวอร์-เที่ยวอย่างรับผิดชอบ-ทัวร์อย่างรู้คุณค่า-แทรเวลดิจิทัล”
ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.นำทีมจัดงาน “Amazing Thailand : Meet the Influencers 2023” กระตุ้นปีท่องเที่ยวไทย 2566 : Visit Thailand Year 2023 : Amazing New Chapters” โดยใช้กลยุทธ์ Influencer Marketing เดินหน้าขับเคลื่อนดีมานต์หรือความต้องการเดินทางของนักท่องเที่ยวผ่านคอนเทนต์ท่องเที่ยวออนไลน์ โดยได้เชิญผู้มีอิทธิพลทางการตลาด /Influencer 350 ราย ร่วมเสริมทักษะสร้างสรรค์และอัปเดตเทรนด์ท่องเที่ยว ด้วยวิธีสร้างความสัมพันธ์เครือข่ายสื่อออนไลน์การท่องเที่ยว รวมทั้งเปิดเวทีให้ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวจัด Speed Dating จับคู่เจรจาธุรกิจ (B2B) เพิ่มโอกาสทางธุรกิจ เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
คาดการจัดงาน “Amazing Thailand : Meet the Influencers 2023” จะขยายการสร้างเครือข่ายพันธมิตร และอินฟลูเอนเซอร์ที่เข้าร่วมงานจะสามารถกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ

ททท.ประกาศปีท่องเที่ยวไทย 2566 ถือเป็นปีแห่งท้าทายครั้งใหม่ที่จะใช้การท่องเที่ยวฟื้นเศรษฐกิจ จึงจะใช้Influencer กับสื่อออนไลน์ที่มีบทบาทมากต่อการสร้างแรงบันดาลใจกระตุ้นให้คนไทยออกเดินทางท่องเที่ยวด้วยบริบทใหม่ ด้วยจุดขาย 4 เรื่อง ได้แก่ เรื่องที่ 1 Soft Power ของไทย เรื่องที่ 2 ส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ(Responsible Tourism) เรื่องที่ 3 มุ่งส่งมอบประสบการณ์การเดินทางที่มีคุณค่าและมีความหมาย (Meaningful Travel) ก่อให้เกิดความยั่งยืน เรื่องที่ 4 นำนวัตกรรมเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้เพื่อตอบสนองการท่องเที่ยวในยุคดิจิทัล
นายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา กล่าวว่า ททท. เร่งสื่อสารการท่องเที่ยวไทยขานรับกระแสการท่องเที่ยวแบบล้างแค้น(Revenge Tourism) ในปีท่องเที่ยวไทย 2566 มุ่งกระตุ้นการเดินทางด้วยเนื้อหาการท่องเที่ยวผ่านออนไลน์และโซเชียลมีเดีย ซึ่งปัจจุบันมีอิทธิพลอย่างมาก ด้านสื่อสารการตลาด ททท. จึงได้จัดงาน Amazing Thailand : Meet the Influencers 2023 ขึ้นเมื่อ 25 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ คาดจะมีกว่า 55 ล้านผู้ติดตามเข้าร่วมอัปเดตเทรนด์ท่องเที่ยว แลกเปลี่ยนความรู้และเพิ่มทักษะการสร้างสรรค์เนื้อหาเชิงท่องเที่ยว (Boost Skill & Creativity) ตามที่ ททท.ได้ชูกลยุทธ์ Influencer Marketing เชิญพันธมิตรสื่อออนไลน์ด้านท่องเที่ยวของไทย ตั้งแต่ระดับ Pico Mega Influencer ไปจนถึง Mega Influencer รวม 350 ราย จาก 210 สังกัด
โดยร่วมเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการท่องเที่ยว พร้อมแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับทิศทางการส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยร่วมกับ ททท. สร้างเครือข่ายความสัมพันธ์เครือข่ายช่วยประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการท่องเที่ยว(Boost Connection) ร่วมสัมผัส Soft Power (5F) ของไทยผ่านกิจกรรมเวิร์ปช้อปสินค้าท่องเที่ยวจากชุมชนต่างพื้นที่ต่าง ๆ (Boost Travel Content)

ไฮไลท์งาน Amazing Thailand : Meet the Influencers 2023 ททท. นำร่องหใผู้เข้าร่วมงานรับพลังบวก เพิ่มแรงบันดาลใจไปกับ “เขื่อน ภัทรดนัย เสตสุวรรณ” จากนั้นชวนอัปเดตเทรนด์ท่องเที่ยวและเพิ่มทักษะการสร้างสรรค์คอนเทนต์ด้วยกิจกรรม Breakout Session สัมมนาน่าสนใจ 3 หัวข้อ ได้แก่
หัวข้อที่ 1 Inspiration from Your Daily Life Turns into Viral Content เจาะอินไซต์เทรนด์ท่องเที่ยวกับ Tiktok พร้อมถอดรหัส Go Viral ของครีเอเตอร์สุดฮอต “Japan and Friends” โดยนางสาววรรณิตา คำนุ้ย จากแพลตฟอร์ม Tiktok กับนางสาวณภัค ภักดีอิสรา เจ้าของเพจ Japan จอมโหด and Friends
หัวข้อที่ 2 How to be Professional Influencers ร่วมเเชร์เทคนิคเล่าเรื่องให้สนุก น่าติดตาม จุดประกายมุมมองใหม่ที่ “แตกต่าง” และประทับใจกว่าที่เคยกับโค้ดดี้ อรรถพล โพธิ์หาญรัตนกุล ผู้ร่วมก่อตั้ง ‘เสือร้องไห้’
หัวข้อที่ 3 นำเสนอ 2023 Trends: What’s Next for Content Marketing? ติดอาวุธอินฟลูเอนเซอร์ยุคใหม่และวิเคราะห์เทรนด์โลกออนไลน์ โดยนายกล้า ตั้งสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไวซ์ไซท์ (ประเทศไทย) จำกัดต่อด้วย กิจกรรม Speed Dating เชิญ 65 หน่วยงาน ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ทั้งโรงแรมชั้นนำ แหล่งท่องเที่ยว และสายการบินทั่วประเทศ ร่วมพบปะกับ Influencer และสื่อออนไลน์แบบ B2B ใช้เป็นเวทีแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการท่องเที่ยวและสร้างโอกาสทางธุรกิจร่วมกัน

ภายในงานได้นำเสนอ Soft Power ของไทย เปิดให้ชุมชนท่องเที่ยวได้ร่วมนำเสนองานคราฟท์และอาหารประจำถิ่นเพื่อให้ Influencer สัมผัสประสบการณ์ใหม่ นำไปสู่การเตรียมตัวออกเดินทางจริงในแต่ละพื้นที่
ตลอดงาน ททท. ได้ออกแบบการจัดให้มีการสร้างขยะน้อยที่สุด ตระหนักถึงความยั่งยืนโดยได้นำแนวคิดResponsible Tourism มาปรับใช้หลายส่วน เช่นถุงของที่ระลึกทำจากวัสดุที่นำมากลับมาใช้ใหม่ได้ ป้ายแบนเนอร์และแบคดรอปภายในงานผลิตจากกระดาษรังผึ้งย่อยสลายได้ ลดการสร้างขยะไม่ใช้ขวดน้ำพลาสติก ใช้ภาชนะที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้ เพื่อเป็นต้นแบบขับเคลื่อนและส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza,www.facebook.com/penroongyaisamsaen