

- เชื่อมโยงเกษตรกรสั่งซื้อตรงจากโรงงาน ผู้นำเข้า
- ทำซื้อได้ในราคาถูกลงกระสอบละ 40-50 บาท
- นายกฯผู้ค้าปุ๋ยชี้ปีนี้ราคาถูกลง-ไม่ขาดแคลนแน่
นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรม ร่วมกับกรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมส่งเสริมการเกษตร และโรงงานผู้ผลิต ผู้นำเข้าปุ๋ย 4 สมาคม ได้แก่ สมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทย สมาคมการค้าผู้ผลิตปุ๋ยไทย สมาคมคนไทยธุรกิจเกษตร และสมาคมธุรกิจปุ๋ยอินทรีย์และชีวภาพไทย จัดทำโครงการ “จับคู่ปุ๋ย ซื้อตรง ถูกเงิน ถูกใจ” โดยส่งเสริมให้สถาบันเกษตรกร จับคู่กับโรงงานผู้ผลิต ผู้นำเข้าปุ๋ย เพื่อให้สั่งซื้อปุ๋ยกันโดยตรงจากโรงงาน และนำไปกระจายสู่เกษตรกรในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด
ทั้งนี้ เน้นส่งเสริมให้สถาบันเกษตรกร ไม่ว่าจะเป็นสหกรณ์ วิสาหกิจชุมชน กลุ่มแปลงใหญ่ หรือกลุ่มอื่นๆ รวมตัวกันสั่งซื้อปุ๋ยตรงจากโรงงาน ซึ่งเป็นช่องทางที่ช่วยให้พี่น้องเกษตรกรเข้าถึงปุ๋ยในราคาประหยัดขึ้น และหากสถาบันเกษตรกรที่ต้องการเพิ่มสภาพคล่อง กรมก็ได้ประสานธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เข้าไปดูแล จากการสำรวจความต้องการซื้อปุ๋ยจากเกษตรมีมากถึง 2.5 ล้านกระสอบ
“การจับคู่ซื้อขายปุ๋ยกันโดยตรง จะช่วยลดช่วงการค้าลง และช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายถึง 40-50 บาทต่อกระสอบ หรืออาจมากกว่า ขึ้นอยู่กับสูตรและยี่ห้อ ขณะเดียวกัน โรงงานก็สามารถผลิตหรือนำเข้าปุ๋ยมาจำหน่ายได้ โดยได้นำร่องส่งมอบปุ๋ย 60 ตัน หรือ 1,200 กระสอบ เป็นปุ๋ยยูเรียสูตร 46-0-0 จำนวน 30 ตัน และปุ๋ยสูตร 16-20-0 จำนวน 30 ตัน ให้กับสหกรณ์การเกษตรบางน้ำเปรี้ยว จำกัด แล้ว หลังจากนี้ กรมจะจัดกิจกรรมพบปะระหว่างโรงงานกับสถาบันเกษตรกรในแต่ละภูมิภาค เพื่อให้เกษตรกรได้รับรู้รับทราบถึงช่องทางการสั่งซื้อปุ๋ยตรงจากโรงงานมากขึ้น”

นายกองเอก เปล่งศักดิ์ ประกาศเภสัช นายกสมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทย กล่าวว่า ในปีนี้มั่นใจว่าปุ๋ยจะไม่ขาดแคลน เนื่องจากกรมการค้าภายในได้ติดตามสถานการณ์ปุ๋ยร่วมกับสมาคมอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเร่งรัดให้นำเข้าปุ๋ยมาจำหน่ายอย่างเพียงพอ ส่วนราคาปุ๋ยปีนี้จะลดลงอย่างแน่นอน เนื่องจากราคาน้ำมันในตลาดโลก ซึ่งปัจจัยการผลิตหลักได้ลดลง ตลอดจนการขนส่งก็เริ่มสะดวกขึ้น
ส่วนการจับคู่ปุ๋ยที่กรมการค้าภายในเป็นคนกลางในการประสานนั้น จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งเมื่อผู้ขายพบกับผู้ซื้อโดยตรง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก็พร้อมสนับสนุน รวมทั้งธ.ก.ส. เข้ามาช่วยสนับสนุนด้านแหล่งทุน ก็หวังว่าปีนี้จะเป็นปีที่ดี เป็นปีทองของประเทศ ทำไห้การขับเคลื่อนเศรษฐกิจไปข้างหน้าด้วยดี
ด้านนางผ่องศรี สิมะวัฒนา ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรบางน้ำเปรี้ยว กล่าวว่า เชื่อว่าโครงการนี้จะช่วยให้เกษตรกรซื้อปุ๋ยได้ในราคาถูกลง เพราะไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง ส่งผลดีต่อเกษตรกรผู้ใช้ปุ๋ย โดยในพื้นที่บางน้ำเปรี้ยวทั้งหมดเป็นที่นา และปลูกข้าวทั้งหมด ก่อนหน้านี้ช่วงที่ผ่านมาราคาปุ๋ยแพง ได้รับผลกระทบ ทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น แต่ถ้าราคาปุ๋ยลดลงก็จะช่วยเหลือชาวนาได้มาก