

.นักลงทุนรอผลประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เริ่มประชุมคืนนี้
.มีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นที่ผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ออกมาดีเกินคาด
.ตลาดหุ้นสหรัฐแกว่งตัวแคบ รอดูภาพรวมเศรษฐกิจ ดอกเบี้ย คาดตลาดหุ้นปี 66 ฟื้น
เมื่อเวลาประมาณ 21.50 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เคลื่อนไหวที่ระดับ 33,769.31 จุด เพิ่มขึ้น
52.22 จุด หรือ +0.15% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 11,464.84 จุด เพิ่มขึ้น 71.03 จุด หรือ +0.62% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ระดับ 4,029.58 จุด เพิ่มขึ้น 11.81 จุด หรือ +0.29%
ผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน ทำให้มีแรงซื้อหุ้นเข้ามาส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ อยู่ในแดนบวกได้ขณะเดียวกัน นักลงทุนส่วนใหญ่คาดการณ์ ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะเริ่มขึ้นวันนี้ และจบลงพรุ่งนี้จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25%
อย่างไรก็ตาม ตลาดจับตาทิศทางดอกเบี้ย รวมทั้งถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ซึ่งจะส่งสัญญาณทิศทางนโยบายการเงินของเฟดในปีนี้
ทั้งนี้ บริษัทแมคโดนัลด์ คอร์ป และเจเนอรัล มอเตอร์ (GM) ซึ่งเปิดเผยตัวเลขกำไรและรายได้สูงกว่าคาดในไตรมาส 4/2565
ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทเข้าสู่การซื้อขายวันสุดท้ายของเดือนม.ค.ในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์ระบุว่าการปรับตัวอย่างแข็งแกร่งในเดือนแรกของปีจะเป็นสัญญาณบ่งชี้ทิศทางที่สดใสของตลาดในปีนี้ หลังจากทำสถิติทรุดตัวหนักที่สุดนับตั้งแต่ปี 2551 ในปีที่ผ่านมา
นายไรอัน เดทริก นักวิเคราะห์จาก Carson Group กล่าวว่า การปรับตัวที่แข็งแกร่งในเดือนม.ค.ถือเป็นสัญญาณที่ดีต่อตลาด และบ่งชี้ว่าตลาดจะดีดตัวขึ้นต่อไปในช่วงหลายเดือนข้างหน้า
“สถิติบ่งชี้ว่า มีอยู่ถึง 5 ครั้งในอดีตที่ดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้นมากกว่า 5% ในเดือนม.ค. หลังจากที่ตลาดติดลบในปีก่อนหน้า ดัชนีก็ได้พุ่งขึ้นเฉลี่ยถึง 30% ในปีนั้น” นายเดทริกระบุ
ด้านนายอดัม พาร์คเกอร์ นักวิเคราะห์จาก Trivariate Research กล่าวเช่นกันว่า “สาเหตุที่ผมมีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นในช่วงต้นปีเป็นเพราะที่ผ่านมานักลงทุนมองในแง่ลบมากเกินไป”