

- เผยการปรับเพิ่มวงเงินสมทบ จะทำให้สมาชิก กอช. มีเงินบำนาญเพิ่มขึ้น
- ช่วยสร้างความมั่นคงในอนาคต ให้มีเงินเพียงพอในการดำรงชีพยามชราภาพ
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบตามที่กระทรวงการคลัง เสนอร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราการจ่ายเงินสะสมและเงินสมทบพ.ศ. ….ของกองทุนออมแห่งชาติ (กอช.) โดยจะปรับเพิ่มจำนวนเงินสะสมสูงสุดของสมาชิกและจำหน่ายเงินสมทบสูงสุดที่รัฐบาลจ่ายให้สมาชิก ให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2566 เป็นต้นไป ดังนี้ 1.ปรับเพิ่มจำนวนเงินสะสมการออมสูงสุดของสมาชิกจาก 13,200 บาท เป็น 30,000 บาท ต่อปี 2.ปรับเพิ่มจำนวนเงินสมทบสูงสุดจากรัฐบาล ตามขั้นบันไดอายุสมาชิก คือ อายุสมาชิก อายุตั้งแต่ 15 -30 ปี ปรับเพิ่มวงเงินสมทบจาก 600 บาท เป็น 1,800 บาทต่อปี อายุตั้งแต่ 30-50 ปี ปรับเพิ่มวงเงินสมทบสูงจากจาก960 บาท เป็น 1,800 บาทต่อปี และอายุ 50-60 ปี ปรับเพิ่มวงเงินสมทบจาก 1,200 บาท เป็น 1,800 บาท ต่อปี
ทั้งนี้การปรับเพิ่มวงเงินสมทบนั้น จะทำให้สมาชิก กอช.มีเงินบำนาญเพิ่มขึ้น จะช่วยสร้างความมั่นคงในอนาคตให้มีเงินเพียงพอในการดำรงชีพยามชราภาพ โดยสมาชิกกอช.เริ่มออมได้ตั้งแต่อายุ 15 ปีขึ้น และต้องออมต่อเนื่องไปจนถึงอายุ 60 ปี ก็จะมีโอกาสได้รับเงินบำนาญประมาณ 12,000 บาทต่อเดือน จากเดิมได้เดือนละ 5,300 บาทต่อเดือน ดังนั้นการปรับเพิ่มจำวนเงินสะสมสูงสุดและจำนวนเงินสมทบดังกล่าว จะเป็นการสนับสนุนการออมแรงงานนอกระบบให้เหมาะสมกับสถานการณ์เศรษฐกิจ เพิ่มแรงจูงใจในการออม และเตรียมความพร้อมรองรับสังคมสูงอายุ
ทั้งนี้กองทุนกอช.มีวัตถุประสงค์ส่งเสริมให้แรงงานนอกระบบ โดยเฉพาะภาคการเกษตร เข้าสู่การออม เพื่อเก็บเงินไว้ใช้จ่ายยามชรา ปัจจุบันสมาชิกกอช.มี 2.5 ล้านคนข ขณะที่แรงงานที่อยู่นอกระบบมี 19 ล้านคน ดังนั้นต้องพยายามจูงใจให้เข้าสู่ระบบการออมให้เพิ่มขึ้น รวมถึงต้องสร้างวินัยการออมตั้งแต่เด็กๆด้วย เพราะการออมจะช่วยให้มีเงินไว้ใช้ยามชรา ถ้าออมต่อเนื่องโดยไม่หยุด มีเงินใช้เดือนละ 12,000 บาท ถือว่าสามารถดำรงชีพได้สบายๆ แต่ถ้าไม่เพิ่มวงเงินและรัฐไม่เพิ่มวงเงินสมทบ ก็อาจจะอยู่ลำบากนิดในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน เพราะแค่เดือนละ 5,300 บาท โดยคาดว่าหวังว่าการปรับเพิ่มวงเงินออมครั้งนี้ จะเพิ่มวงเงินออมเพิ่มขึ้น 20 % ของวงเงินที่จ่ายสะสม ส่วนจำนวนรายไม่สามารถคาดการณ์ได้ โดยเงินสมทมเป็นเงินจากงบประมาณปีละ 1,800-2,000 ล้านบาท