- ททท.ผ่าตัดใหม่ปี’66งัดใช้กลยุทธ์“ABCD Fast Forward” เจาะตลาด 4 ทวีป ยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา
- ไม่วางใจ “ตั๋วบิน” ยุโรป อเมริกา เต็มยาวถึง ก.พ.66 ยอดผู้โดยสารแน่น 90% วิ่งหาแอร์ไลน์สร่วมฟื้นเส้นทางและความถี่
- ได้แอร์แคนาดา เดลต้าแอร์ โคเรียนท์แอร กับ 13 สายการบินตะวันออกกลาง และชาเตอร์ไฟลต์ สานฝันเป้ารายได้ 40% จำนวนนักท่องเที่ยว 30% หรือ 7.5 ล้านคน
นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า สถานการณ์ท่องเที่ยวปี 2566 ตลาดทั้ง 4 ทวีป ยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา ทั้งหมดเป็นระยะไกล (longhaul) ซึ่งจะต้องให้น้ำหนักกับเรื่อง “การบิน” เพราะการเดินทางแต่ละประเทศมาไทยจะต้องใช้เวลา 6-12 ชั่วโมง ขณะนี้ทุกภาคส่วนได้ร่วมกันทำให้ไทยเป็นประเทศมั่นคง ปลอดภัย เชื่อมั่นได้ ขณะนี้สายการบินนานาชาติสามารถทำอัตราการบรรทุกผู้โดยสาร เข้าไทย(Load Factor) ได้ถึง 80-90 % มียอดจองที่นั่งตั๋วการบินเต็มยาวไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2566 แต่ ททท.ยังหยุดนิ่งไม่ได้เพราะ “จำนวนเที่ยวบินและที่นั่งโดยสาร” เต็มแบบจำกัด ดังนั้นต้องหาวิธีเพิ่มความถี่เที่ยวบินกลับมาให้ใกล้เคียงกับช่วงสถานการณ์ปกติปี 2562
ททท.วางแผนจะดันเป้าหมายภาพรวมทั้ง 4 ทวีป ทางด้าน “รายได้” ต้องไปให้ถึง 40 % ของตลาดต่างประเทศทั้งหมดปีนี้ตั้งไว้ 1.5 ล้านล้านบาท กับ “จำนวนนักท่องเที่ยว” 30 % หรือประมาณ 7.5 ล้านคน จากทั้งหมด 25 ล้านคน ด้วยจุดแข็งของนักท่องเที่ยวจะพักเฉลี่ยนานวันกว่าตลาดอื่น ๆ
จึงได้พยายามเดินหน้าทำตลาดเชิงรุกร่วมกับสายการบินต่อไป ในจังหวะที่นักท่องเที่ยวตลาดระยะไกลเข้าพักในเมืองไทยนานวันขึ้น วัดผลได้จากหลังเปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 50 ประเทศ ขยายวันพัก VISA On Arrival อยู่ในไทยได้นานถึงครั้งละ 45 วัน จากเดิมเพียง 30 วัน พบว่าตอนนี้มีต่างชาติ 2 กลุ่ม คือ กลุ่มเดินทางเป็นคู่ (couple) กับกลุ่มผู้สูงวัย เลือกพักอยู่ในไทยนานถึง 40 วัน/คน/ทริป
ดังนั้นจึงต้องเดินหน้าต่อด้วยกลยุทธ์ “A B C D Fast Forward” ขับเคลื่อน A-Airlines ร่วมมือกับสายการบินประกอบด้วย
1.บินตรงแบบไม่แวะพัก (Regular flight) ไฮไลต์คือ “แอร์แคนาดา” ได้เปิดประวัติศาสตร์ครั้งแรกจากแวนคูเวอร์มากรุงเทพฯ บินตรงแบบไม่แวะพัก (Regular flight) ใช้เวลา 18 ชั่วโมง แต่จะบินสัปดาห์ละ 4 เที่ยว ตั้งแต่ 3 ธันวาคม2565 ไปจนถึงเมษายน 2566 ต่อด้วย“เดลต้าแอร์” จับมือ “โคเรียนท์แอร์” ขายตั๋วเป็นแพกเกจข้ามทวีป นำผู้โดยสารจากอเมริกามาต่อเครื่องที่เกาหลีใต้ แล้วเดินทางมาเมืองไทย ซึ่งตรงกับสูตรการตลาดของไทย “เมืองรอง ไม่เป็นสองรองใคร” เพราะเครือข่ายเส้นทางบินของเดลต้าแอร์จะบินจากเมืองรองมากมายมาท่องเที่ยว ซึ่งทางโคเรียนแอร์ไลน์ส จะกระจายบินไปยังภูเก็ต เชียงใหม่ แล้วยังมีอีกหลายสายการบินอย่าง “แอโร่ฟลอต” รัสเซีย
2.เที่ยวบินเช่าเหมาลำ (Charter flight) เพื่อรองรับผู้โดยสารที่ไม่สามารถหาซื้อตั๋วโดยสารจากเที่ยวบินตรงปกติได้ตอนนี้หลายบริษัทได้คุยกับแอร์ไลน์ส ทั้งจากรัสเซีย แมนเชสเตอร์ โปแลนด์ สาธารณรัฐเชค และอีกหลายเมืองทวีปไกลก็สนใจทำเช่าเหมาลำมาเที่ยวเมืองไทย เนื่องจากมีสล็อตบินเหลือจากการที่สายการบินปกติไม่ได้ใช้สิทธิการบินทั้งหมด
สำหรับ “ตะวันออกกลาง” บินมาไทยมีถึง 13 สายการบิน เอมิเรตส์ จะมีสายการบินลูกอย่าง Fly Dubai ไปลงกระบี่ อู่ตะเภา(พัทยา) ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวที่กำลังแสวงหาประสบการณ์อย่างมีคุณค่าและความหมาย สอดคล้องตามคอนเซ็ปต์การส่งเสริมของททท.เรื่อง Meaningful Travel
รวมทั้งได้ใช้ศักยภาพของประเทศในตะวันออกกลางซึ่งเป็นตลาดสำคัญของไทย ซึ่งเป็นศูนย์กลางการบินต่อเครื่องของยุโรปมาไทยได้ด้วย เด่น ๆ ได้แก่ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กับดาวดวงใหม่คือ “ซาอุดิอาระเบีย” เส้นทางนี้มีบริการหลักจากการบินไทย กับ ซาอุเดียแอร์ไลน์ส บินทุกวัน วันละ 1 เที่ยว ภายในเวลาไม่ถึงปีมีนักท่องเที่ยวซาอุดิอาระเบียมาไทยแซงหน้าประเทศในตะวันออกกลางด้วยกันแล้วเกือบ 100,000 คน ส่วน “อิสราเอล” ก็มีบินกับ “แอลอัล แอร์ไลน์ส” บินตรงกรุงเทพฯ ภูเก็ต เริ่มกลับมาคึกคักเช่นกัน
สำหรับตลาดดาวเด่นของ ททท.ปี 2566 จาก 4 ทวีป ที่ “สร้างรายได้ท่องเที่ยวเข้าไทย” มาจาก “3 เพิ่ม” เพิ่มเม็ดเงินเพิ่มวันพักเฉลี่ย เพิ่มค่าใช้จ่ายต่อวัน ซึ่งแต่ละประเทศล้วนมีความโดดเด่นเกือบทั้งหมด อย่าง “แคนาดา อเมริกา” ทาง ททท.จับมือกับบริษัทตัวแทนขายท่องเที่ยวหรูหราลักชัวรี่ ส่วน “ยุโรป” ทั้ง สหราชอาณาจักร/อังกฤษ เยอรมันฝรั่งเศส สวีเดน หรือแม้แต่รัสเซียเคยมาเที่ยวเมืองไทยปีละกว่า 1 ล้านคน ปี 2566 อาจจะทำได้อีกครั้ง เพราะมีสายการบินเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคุณภาพกำลังซื้อสูง โดยเฉพาะนักเดินทางกลุ่มผู้สูงวัยมาทำโปรแกรมดูแลสุขภาพองค์รวมหรือ Wellness และ “ตะวันออกกลาง” ก็จะมี ซาอุดิอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์” ชื่นชอบโปรแกรมสุขภาพเวลเนสเต็มรูปแบบ ตอนนี้มี “อันดามัน เวลเนส” ขึ้นมารองรับตลาดแล้ว
นายศิริปกรณ์ กล่าวว่า ททท.ได้เปิดปีท่องเที่ยวไทย-VISIT THAILAND YEAR 2023 มุ่งขยายประโยชน์ “สร้างคุณค่า เพิ่มประสบการณ์ อย่างมีความสุข” Meaningful Travel หลากหลายมอบประสบการณ์ความสุขแก่นักท่องเที่ยว ตามที่ ททท.ตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออก อเมริกา พร้อมใช้หมัดเด็ด “A B C D Fast Forward” เดินหน้า 4 กลยุทธ์ ได้แก่
กลยุทธ์ที่ 1 A-Airlines สร้างเครือข่ายการทำงานร่วมกับทุกสายการบิน กลยุทธ์ที่ 2 B-Big City & Beyond กระจายฐานนักท่องเที่ยวจากเมืองหลักสู่เมืองรอง ทั้งจากต้นทางของตลาดและปลายทางแหล่งท่องเที่ยวในไทย
กลยุทธ์ที่ 3 C-Collaboration ททท.มีสำนักงานในยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง 8 แห่ง ในอเมริกา แคนาดา อีก 3 แห่ง พร้อมจะประสานทำงานร่วมกับพันธมิตร ด้วยคอนเซ็ปต์ 1 พันธมิตร 1 สำนักงาน 1 พันธมิตร เช่น ททท.มอสโกจับมือ Intourist รัสเซีย หรือ REWE ห้างสรรพสินค้าใหญ่ในเยอรมันก็เป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งกับท่องเที่ยวไทยได้
กลยุทธ์ที่ 4 D-Destination For All ต้องมาเที่ยวเมืองไทยตลอดทั้งปี นักท่องเที่ยวทุกเซกเมนท์จะต้องมาเที่ยวได้ตลอดทุกวัน แบ่งเป็น ช่วงฤดูเดินทางหน้าหนาว ระหว่างตุลาคม-มีนาคม ของทุกปี จะมีตลาดหลักคือ ยุโรป อเมริกาอเมริกา ช่วง ระหว่างเมษายน-พฤษภาคม ของทุกปี เป็นเทศกาลวันหยุดก่อนและหลังอีสเทอร์ กับเดือนรอมดอนของประเทศแถบตะวันออกกลาง เรื่อยไปจนถึง “พฤติกรรมใหม่” การท่องเที่ยวช่วงปิดเทอม จะโปรโมตท่องเที่ยววันหยุดซัมเมอร์กับตลาดเด็ก ๆและครอบครัว
ควบคู่กับการมุ่งส่งเสริมการขายอย่างจริงจังเรื่อง “การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน/Sustainable Tourism” ตอนนี้แอร์แคนาดาทำแล้วขึ้นทะเบียนประกาศเป็นสายการบินโลว์คาร์บอน ดังนั้นผู้ประกอบการท่องเที่ยวในไทยก็จะต้องให้ความสำคัญขับเคลื่อนธุรกิจสู่การท่องเที่ยวยั่งยืนทั้ง โรงแรมที่พัก แหล่งท่องเที่ยว เพื่อให้เป็น All Year Round ทั่วโลกเที่ยวเมืองไทยได้ทุกฤดูตอบสนองตลาดทุกเพศทุกวัย ทำให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นอาวุธฟื้นเศรษฐกิจชาติกลับมามีรายได้อย่างยั่งยืนตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นไป
เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza, www.facebook.com/penroongyaisamsaen
