

- ณ ศูนย์วิขัยข้าวอุบลราชธานี จ.อุบลราชธานี
- เกษตรกร โรงสี ผู้ค้านำข้าวมาตรวจสอบได้ให้ผลแม่นยำ
- คต.ชี้สร้างมั่นใจให้ผู้ซื้อซื้อข้าวที่ได้มาตรฐาน ไม่ปลอมปน
นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (คต.) เปิดเผยว่า กรมร่วมมือกับกรมการข้าว ผลักดันการจัดตั้งหน่วยบริการตรวจสอบเอกลักษณ์พันธุกรรม (ดีเอ็นเอ) ข้าวไทย ณ ศูนย์วิจัยข้าวอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานีเป็นของขวัญปีใหม่แก่ผู้ประกอบการค้าข้าวไทยได้เป็นผลสำเร็จ ซึ่งจะเป็นการสร้างทางเลือกให้ผู้ที่เกี่ยวข้องในวงการค้าข้าว ตั้งแต่ระดับต้นน้ำถึงปลายน้ำ ไม่ว่าจะเป็นเกษตรกร โรงสี และผู้ประกอบการค้าข้าว สามารถนำข้าวของตนเองไปตรวจสอบการปลอมปนพันธุ์ข้าวด้วยเทคโนโลยีดีเอ็นเอที่ทันสมัย และแม่นยำสูงได้อย่างสะดวก และรวดเร็ว ด้วยต้นทุนที่ต่ำลง กระตุ้นให้เกิดการรักษาคุณภาพมาตรฐานข้าวไทยทั้งระบบ และช่วยสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพมาตรฐานข้าวไทยในตลาดโลก
“ผู้ประกอบการข้าวทั้งระบบ สามารถนำตัวอย่างข้าวของตนเองมาตรวจสอบดีเอ็นเอได้ หากไม่มั่นใจว่า จะมีข้าวพันธุ์อื่นผสมมาหรือไม่ ซึ่งจะให้ผลที่แม่นยำสูง ช่วยสร้างมาตรฐานข้าวไทย และความเชื่อมั่นให้กับผู้ซื้อ โดยเฉพาะข้าวคุณภาพระดับโลกอย่างข้าวหอมมะลิไทย ส่งผลให้สามารถขยายการส่งออกได้อย่างต่อเนื่องจนถึงปี 67 เพราะคาดว่าปริมาณการค้าข้าวในตลาดโลกจะขยายตัวทดแทนธัญพืชอื่นๆ ที่เกิดภาวะขาดแคลน”

สำหรับปี 65 การค้าข้าวไทยสดใส โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิไทย ที่ในช่วง 10 เดือน (ม.ค. – ต.ค.) ปีนี้ ส่งออกแล้ว1.28 ล้านตัน เพิ่มขึ้นกว่า 27% จากช่วงเดียวกันของปี 64 และมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง เพราะเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิด-19 รวมถึงการปลดล็อคนโยบายโควิดเป็นศูนย์ (ซีโร โควิด) ของจีน อีกทั้ง ผู้ซื้อ ผู้นำเข้า และผู้บริโภคต่างประเทศยังมีคำสั่งซื้อต่อเนื่อง เพราะยังคงเชื่อมั่นในคุณภาพมาตรฐานข้าวไทย ซึ่งการเปิดศูนย์วิจัยข้าวอุบลราชธานี เป็นหน่วยบริการตรวจสอบดีเอ็นเอข้างต้น จะช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดี และเป็นแต้มต่อทางการตลาดของข้าวไทยในสถานการณ์การแข่งขันที่รุนแรงของตลาดข้าวในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี