

- คาดปรับขึ้นราคาสินค้าหนีตายแต่ดันเงินเฟ้อพุ่ง
- ถ้าไม่ขึ้นราคาสินค้าสภาพคล่องหายกระทบจ้างงาน
- คาดธุรกิจแบกรับภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้นได้ไม่เกิน 3 เดือน
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษา ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจกล่าวถึงการขึ้นค่าไฟฟ้าในช่วงปีใหม่ว่า ภาคเอกชน ทั้งสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและสมาคมการค้าต่างๆ เตรียมแถลงข่าวผลกระทบการปรับขึ้นค่าไฟฟ้าของภาคธุรกิจในวันที่ 23 ธ.ค.นี้ ซึ่งการปรับขึ้นค่าไฟฟ้าอีกราว 20% จากหน่วยละ 4 บาทกว่ามาเป็น 6 บาทกว่า จะมีผลกระทบอย่างต่อภาคธุรกิจ โดยเฉพาะขนาดเล็ก ที่ยังไม่มีสภาพคล่อง และผลประกอบการยังไม่ดี
ดังนั้น ทำให้ผู้ประกอบการ มี 2 ทางเลือก คือ ขึ้นราคาสินค้า แต่ก็จะทำให้เงินเฟ้อขยับสูงขึ้น หรือถ้าไม่ขึ้นราคาสินค้าก็อาจทำให้สภาพคล่องน้อยลง ส่งผลให้เกิดหนี้เสีย และลดการจ้างงานตามมา ตนมองว่า ราคาพลังงาน ยังเป็นสิ่งที่ภาครัฐต้องประคับประคองในช่วงไตรมาสแรก เพื่อให้ธุรกิจสามารถปรับตัวได้ก่อน
“ขึ้นค่าไฟฟ้า ทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้ เชื่อว่า ภาคธุรกิจแบกรับไม่ได้ ทำให้เสียศักยภาพการแข่งขัน หรืออาจแบกรับได้อีกเพียง 1-3 เดือนเท่านั้น”