.นักลงทุนช้อนซื้อหุ้นราคาต่ำ หลังดัชนีลดลงต่อเนื่อง4วันติด หวั่นเฟดขึ้นดอกเบี้ยแรงกว่าคาด
.ตลาดวิตกกังวลการใช้จ่ายที่อ่อนแอที่มีแนวโน้มในช่วงเทศกาลวันหยุดของผู้บริโภค
.อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯดีดขึ้นแรงหลังBOJ ขยายผลตอบแทนพันธบัตร
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 20 ธ.ค.ที่ 32,849.74 จุด เพิ่มขึ้น 92.20 จุด หรือ +0.28%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,821.62 จุด เพิ่มขึ้น 3.96 จุด หรือ +0.10% ส่วนดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 10,547.11 จุด เพิ่มขึ้น 1.08 จุด หรือ +0.01%
มีแรงช้อนซื้อหุ้นเข้ามา หลังตลาดร่วง 4วันติดต่อกัน ส่งผลให้ราคาลดลงต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม บรรยากาศการซื้อขายยังคงได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และล่าสุดธนาคารกลางญี่ปุ่น หรือBOJ ได้สร้างความประหลาดใจด้วยการประกาศขยายกรอบอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีให้เคลื่อนไหวในช่วง -0.5% ถึง +0.5% จากเดิมที่อยู่ในกรอบ -0.25% ถึง +0.25%
นักลงทุนมองว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นการส่งสัญญาณว่า BOJ จะหันมาใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงินตามรอยธนาคารกลางทั่วโลก
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นยังวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน รวมทั้งการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงเทศกาลวันหยุด โดยนักวิเคราะห์จากบริษัทบีเอ็มโอกล่าวว่า พฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคในปีนี้จะเน้นไปยังสินค้าและการบริการที่มีข้อเสนอลดแลกแจกแถม ขณะที่นักลงทุนในตลาดหุ้นก็อยู่ในท่าทีของการระมัดระวังซื้อขายหลังจากตลาดผันผวนอย่างหนักในปีนี้
ล่าสุด ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านลดลง 0.5% ในเดือนพ.ย. สู่ระดับ 1.427 ล้านยูนิต แต่การอนุญาตก่อสร้างบ้านดิ่งลง 11.2% สู่ระดับ 1.342 ล้านยูนิตในเดือนพ.ย.นักลงทุนจับตาดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนพ.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกนเพื่อหาทิศทางเศรษฐกิจระยะข้างหน้า
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้น 1.52% หลังจากราคาน้ำมัน WTI ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล พุ่งขึ้น 1.44% หุ้นเชฟรอน เพิ่มขึ้น 1.64% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน พุ่งขึ้น 3.77%
ขณะที่หุ้นเฟ็ดเอ็กซ์ ร่วงลง 2.6% ก่อนที่บริษัทจะเปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาสในวันนี้
หุ้นเทสลา ร่วงลง 8% หลังจากบริษัทโบรกเกอร์อย่างน้อย 3 รายได้ปรับลดเป้าหมายราคาหุ้นของเทสลา เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ที่ซบเซา รวมทั้งสถานะของนายอีลอน มัสก์ในบริษัททวิตเตอร์ หลังจากนายมัสก์เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ทวิตเตอร์โหวตแสดงความเห็นว่าเขาควรอยู่ในตำแหน่งซีอีโอของทวิตเตอร์ต่อไปหรือไม่ ซึ่งผลการสำรวจพบว่าผู้ใช้ทวิตเตอร์ส่วนใหญ่โหวตให้นายมัสก์ออกจากตำแหน่ง
หุ้นธนาคารเวลส์ ฟาร์โก ร่วงลง 2% หลังจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐได้สั่งปรับเวลส์ ฟาร์โกเป็นเงิน 3.7 พันล้านดอลลาร์ เนื่องจากการบริหารจัดการที่ผิดพลาดเกี่ยวกับการปล่อยกู้ซื้อรถยนต์ และบัญชีเงินฝาก
