

- “รมว.พิพัฒน์ รัชกิจประการ” พร้อม ผู้ว่าฯ ยุทธศักดิ์ ร่วม JNTO ฉลองความสัมพันธ์ไทย-ญี่ปุ่น 135 ปี
- เปิดเกมรุกฟื้นท่องเที่ยว 2 ประเทศ ททท.ตั้งเป้าปี’66 ปลุกญี่ปุ่นเที่ยวไทย 1.25 ล้านคน
- เน้น 3 กลุ่มหลัก “B-Leisure/Boy Live/Oya-Rich”
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า นำทีมผู้บริหาร การการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมงาน “Japan-Thailand Tourism Seminar: Embark upon a new adventure, Discover New Treasures” โดยมีนายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เป็นประธานในพิธีเปิดงานขององค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวญี่ปุ่น (Japan National Tourism Organization: JNTO) ที่โรงแรมโอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ
ปี 2565 เป็นปีแห่งการฉลองครบรอบความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยและญี่ปุ่น 135 ปี ซึ่งสถานการณ์การท่องเที่ยวระหว่าง 2 ประเทศก่อนเกิดโควิด-19 เดินทางระหว่างกันรวมกว่า 3 ล้านคน เมื่อโควิดคลี่คลายลงตลาดท่องเที่ยวฟื้นตัวอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะช่วงปลายปีนี้มีแนวโน้มดีขึ้น ทั้งจำนวนเที่ยวบินและนักท่องเที่ยว

ไทยกับญ่ปุ่นได้ใช้นโยบายผนึกความร่วมมือกันส่งเสริมจุดขายอุตสาหกรรมท่องเที่ยวด้วยพลังซอฟท์ เพาเวอร์ Soft Power ซึ่งต่างก็มีอัตลักษณ์โดดเด่นสร้างผลลัพธ์เชิงบวกเป็นประโยชน์กับการท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศ
ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า การจัดงาน “Japan-Thailand Tourism Seminar: Embark upon a new adventure, Discover New Treasures” ไทยและญี่ปุ่นฉลองความสัมพันธ์ทางการฑูต 135 ปี แล้วยังได้หารือถึงแนวทางส่งเสริมความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างกันด้วย ซึ่งญี่ปุ่นเป็นตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่มคุณภาพมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องมาตั้งแต่ก่อนโควิด-19 สถิติปี 2562 ไทยมีโอกาสต้อนรับนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นรวมทั้งสิ้น1,787,185 คน สร้างรายได้ 93,759 ล้านบาท

ททท.ตั้งเป้าปีงบประมาณ 2566 เมื่อสถานการณ์โควิ-19 คลี่คลาย รัฐบาลไทยและญี่ปุ่นประกาศเปิดประเทศตามปกติแล้ว จะดึงดูดนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเมืองไทย 1,250,000 คน โดยเน้นส่งเสริมเป้าหมายตลาด 2 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มแรก B-Leisure หรือนักท่องเที่ยวเชิงธุรกิจ กลุ่มที่ 2 Boy Love และ Oya-Rich ซึ่งเป็นกลุ่มศักยภาพสูง พร้อมทั้งจะกระตุ้นการใช้จ่ายเพื่อเพิ่มรายได้เข้าประเทศกลับมาให้ได้มากที่สุดด้วย
เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza, www.facebook.com/penroongyaisamsaen