กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเตือน! อย่าหลงเชื่อมิจฉาชีพ



  • ส่งข้อความผ่านโซเชียลมีเดียไลน์ที่ทำปลอม
  • หลอกล้วงข้อมูลส่วนบุคคลข้อมูลธุรกิจ
  • ย้ำกรมไม่ติดต่อหาใครก่อนอย่าหลงเชื่อเด็ดขาด

นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนว่า มีผู้ไม่หวังดีโทรศัพท์หรือส่งข้อความไปยังผู้ประกอบธุรกิจ และประชาชนผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ที่สร้างปลอมขึ้นมาอย่าง Facebook และแอปพลิเคชัน Line โดยแอบอ้างใช้ชื่อรหัสประจำตัว (Username) เป็นชื่อกรมและใช้โลโก้ของกรมเป็นรูปโปรไฟล์ พร้อมขอตรวจสอบธุรกิจเรื่องต่างๆ หรือเสนอเงินให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19  โดยให้กดเพิ่มเพื่อนทาง Line เพื่อขอข้อมูล รวมถึงการปลอมแปลงหน้าเว็บไซต์ให้มีรูปแบบคล้ายกับหน้าเว็บไซต์กรมฯ

นอกจากนี้ ยังมีการหลอกลวงโดยให้กดลิงค์เว็บไซต์ บางรายแจ้งให้คลิ๊กเปิดไฟล์เอกสารที่แนบมาด้วย ทั้งที่ผู้เสียหายไม่ได้มีการติดต่อกับกรม มาก่อน ทำให้ภาคธุรกิจหรือประชาชนบางรายต้องสูญเสียเงินในบัญชีจากการหลงเชื่อดังกล่าว ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าว ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการให้บริการของกรมเป็นอย่างมาก ที่สำคัญยังทำให้ประชาชนได้รับความเสียหายหรือสูญเสียทรัพย์สินอีกด้วย

“ขอยืนยันว่า กรมไม่มีนโยบายติดต่อหรือทักหาประชาชนก่อน โดยที่ประชาชนท่านนั้นไม่ได้สอบถามข้อมูลมา รวมถึงไม่ได้ให้ความช่วยเหลือภาคธุรกิจเป็นตัวเงิน ขอฝากเตือนให้ประชาชนระมัดระวัง หากไม่ได้ดำเนินการติดต่อใดๆ กับกรม แต่ได้รับข้อมูลหรือการติดต่อจากบุคคลในลักษณะดังกล่าว ต้องพิจารณาให้ดีก่อน อย่าหลงเชื่อ หรือกดไฟล์เอกสารที่แนบมาโดยไม่สังเกตความผิดปกติ และปฏิเสธการให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บุคคลอื่น”

อย่างไรก็ตาม กรมได้พัฒนาช่องทางติดต่อสื่อสารกับภาคธุรกิจและประชาชนผ่านช่องทางโซเชียล มีเดีย เพื่อให้ประชาชนติดต่อสอบถามข้อมูลมายังกรมได้สะดวกขึ้น และขอให้ประชาชนมั่นใจได้ว่า กรมมีระบบการเก็บรักษาข้อมูลนิติบุคคลเป็นอย่างดีตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ หากได้รับการติดต่อไปก่อนในลักษณะนี้ ให้สงสัยไว้ว่าอาจเป็นกลุ่มมิจฉาชีพ ให้พึงระวัง หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติม หรือติดตามโครงการส่งเสริมผู้ประกอบธุรกิจด้านต่างๆ ติดต่อได้ที่ สายด่วน 1570 เว็บไซต์ www.dbd.go.th และ FB: DBD Public Relations

นายทศพล กล่าวต่อว่า ปัจจุบันมิจฉาชีพเปลี่ยนกลวิธีการหลอกลวงให้แนบเนียนยิ่งขึ้น โดยได้แอบอ้างเอาหน่วยงานราชการมาใช้สร้างความเสียหาย การกระทำลักษณะดังกล่าวเรียกว่า การฟิชชิง (Phishing) เป็นการหลอกลวงผ่านช่องทางการสื่อสารที่เข้าถึงแต่ละบุคคลเช่น โทรศัพท์ อีเมล โซเชียลมีเดีย และเว็บไซต์ปลอม เพื่อล่อลวงเอาข้อมูลส่วนบุคคลมาใช้โจรกรรม ซึ่งจะใช้การสร้างสถานการณ์ให้เกิดความกลัว หรือได้รับผลประโยชน์บางอย่าง จนหลงเชื่อทำตามและบอกข้อมูลส่วนบุคคลไป

ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนระมัดระวังการเปิดรับข้อมูลจากแหล่งที่ไม่มั่นใจ และรู้ทันกลโกงของมิจฉาชีพ โดยสังเกตได้จากถ้าได้รับอีเมล์ ควรเป็นชื่อที่รู้จักหรือติดต่อไว้เท่านั้น หากระบุให้คลิ๊กลิงค์ หรือเปิดไฟล์ ก็ต้องแน่ใจว่าไม่มีความผิดปกติ เมื่อนำเมาส์ไปชี้ที่ลิงค์ URL จะต้องมี URL ที่ตรงกันกับหน่วยงานที่ติดต่อเท่านั้น อีกทั้ง การเข้าใช้งานในเว็บไซต์ควรพิมพ์ URL โดยตรงจะปลอดภัยกว่าการเข้าใช้งานผ่านลิ้งค์