

.นักลงทุนข่นหุ้นลดความเสี่ยงกังวลสหรัฐหนีไม่พ้นภาวะเศรษฐกิจถดถอย
.ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยยาวนานกว่าที่ตลาดคาดไว้
.ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกล่าสุดลดลง 1,000 ราย ดีกว่านักวิเคราะห์คาด
ณ เวลา 22.10 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 32,021.63 จุด ลดลง -126.13 จุดหรือ -0.39%ขณะที่ดัชนี S&P 500 อยู่ที่ 3,734.53 จุด ลดลง -25.16 จุดหรือ-0.67% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ดิ่งลงมาอยู่ที่ 10,429.02 จุด ลดลง 95.77 จุดหรือ0.91%
นักลงทุนกังวลการขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)โดยมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ และส่งสัญญาณว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.50% ในเดือนธ.ค.
อย่างไรก็ดี นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวแสดงความมุ่งมั่นในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ส่งผลให้ตลาดปรับเพิ่มคาดการณ์เพดานสูงสุดของอัตราดอกเบี้ยของเฟดสู่ระดับ 5% หรือสูงกว่านั้นในปีหน้า จากเดิมคาดการณ์ที่ระดับ 4.50-4.75%
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และการดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ
นอกจากนั้นตลาดแรงงานยังอยู่ในภาวะแข็งแกร่ง ซึ่งเอื้อต่อการทรงคัวในระดับสูงของเงินเฟ้อ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 1,000 ราย สู่ระดับ 217,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 220,000 ราย
อย่างไรก็ดี ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานดังกล่าวอยู่สูงกว่าระดับ 215,000 ราย ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยต่อสัปดาห์ในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในสหรัฐ
ขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่อง เพิ่มขึ้น 50,000 ราย สู่ระดับ 1.49 ล้านราย
นักลงทุนจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันพรุ่งนี้