ช่วงโค้งสุดท้าย! “อธิรัฐ” เร่งปั่นผลงานตั้งธงให้ท่าเรือไทย เป็น “ท่าเรืออัจฉริยะ” เทียบชั้นท่าเรือโลก



  • ดันไทยเป็นศูนย์กลางด้านการคมนาคมขนส่งของภูมิภาคอาเซียน
  • สั่งเข้ม กทท.ปฏิบัติมาตรการเคร่งครัดในการตรวจสอบสินค้าที่มีกฎหมาย การนำเข้า – ส่งออก
  • เผยรถบรรทุกไร้คนขับ Q-Truck เป็นการพลิกโฉมนวัตกรรมท่าเรือ โดยใช้เทคโนโลยี-นวัตกรรม

นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ท่าเรือแหลมบังว่า ตนได้มอบนโยบายพัฒนาท่าเรือไทย “ท่าเรืออัจฉริยะ (Smart Port)” สู่ท่าเรือมาตรฐานระดับโลก โดยเน้นการพัฒนาท่าเรืออัจฉริยะ(Smart Port) ในพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง เป็นการพัฒนาศักยภาพของการขนส่งสินค้าทางน้ำให้เต็มความสามารถเพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านการคมนาคมขนส่งของภูมิภาคอาเซียน จึงได้มอบนโยบายการดำเนินงานให้กับ กทท. 1.พัฒนาระบบท่าเรืออัจฉริยะ (Smart Port) โดยการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้กับกิจการท่าเรือและธุรกิจโลจิสติกส์การให้บริการของ กทท. เช่น เทคโนโลยีควบคุมระบบจากระยะไกล, บริการติดตามสถานะออนไลน์, บล็อกเชน, รถบรรทุกไร้คนขับ และเทคโนโลยีควบคุมการผ่านเข้าออกอัตโนมัติ เพื่อให้การทำงานมีความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เปลี่ยนแปลงท่าเรือแหลมฉบังสู่การเป็นศูนย์กลางท่าเรือระดับภูมิภาค พร้อมยกระดับความปลอดภัยและประสิทธิภาพการดำเนินงานของท่าเทียบเรือ

ขณะเดียวกันให้ดำเนินการนโยบายท่าเรือสีขาว (White Port) ได้เน้นย้ำให้ กทท.ปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัดในการตรวจสอบสินค้าที่มีกฎหมาย การนำเข้า – ส่งออก หรือผ่านราชอาณาจักร โดยจะต้องได้รับอนุญาตหรือปฏิบัติให้ครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนดไว้ การจัดการปัญหาการจราจรในท่าเรือ รวมถึงการลดปัญหาฝุ่นละอองPM 2.5 และตรวจสอบการบรรทุกน้ำหนักสินค้าเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดเพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากลที่เกี่ยวข้อง

จากนั้นได้เข้าเยี่ยมชมและศึกษาดูงานด้านระบบเทคโนโลยีเครื่องมือยกขนตู้สินค้าด้วยระบบควบคุมจากระยะไกลที่ทันสมัย ณ ท่าเทียบเรือ D บริษัท ฮัทชิสัน พอร์ท ประเทศไทย (HPT) ซึ่งถือเป็นท่าเทียบเรือตู้สินค้าที่ทันสมัยที่สุดในโลก และเป็นท่าเทียบเรือตู้สินค้าแห่งแรกของโลกที่ประสบความสำเร็จในการนำรถหัวลากอัตโนมัติไร้คนขับ ปฎิบัติงานขนถ่ายตู้สินค้าระหว่างหน้าท่าและในลานตู้สินค้า ร่วมกับรถหัวลากทั่วไป รถบรรทุกไร้คนขับพลังงานไฟฟ้าQomolo หรือ ‘Q-Truck’ จำนวนทั้งหมด 15 คัน มีระบบการชาร์จพลังงานแบบไร้สาย ปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่องได้มากกว่า 24 ชั่วโมง 

พร้อมติดตั้งเซ็นเซอร์ “LiDAR” ที่วัดระยะห่างด้วยแสงเลเซอร์ (LiDAR – Light Detection and Rage ) ที่มีประสิทธิภาพในการตรวจจับและสำรวจสภาพแวดล้อมทุกทิศทางได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำด้วยการสร้างแผนที่แบบ3 มิติ ทำให้สามารถวิเคราะห์และประเมินสภาพการจราจรเพื่อหลีกเลี่ยงอุปสรรคและการชนได้อย่างมีประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของรถบรรทุกไร้คนขับภายในท่าเทียบเรือชุด D จะถูกควบคุมด้วยระบบปฏิบัติการสำหรับท่าเทียบเรือแบบครบวงจร ‘nGen’ เพื่อบูรณาการในการทำงานร่วมกับนวัตกรรมอื่น ๆ ภายในท่าเทียบเรือชุด D อาทิ เทคโนโลยีควบคุมระบบปฏิบัติงานจากระยะไกล (Remote Control Technology) เพื่อวางแผนเส้นทางวิ่งของรถ ตลอดจนระบบนัดหมายรถเข้าท่าเทียบเรือและลานจอดรถ เพื่อประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูงสุดในการปฏิบัติงาน 

“รถบรรทุกไร้คนขับ Q-Truck เป็นการพลิกโฉมนวัตกรรมท่าเรือ โดยการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมล่าสุด เป็นการเพิ่มศักยภาพการบริหารจัดการท่าเรือของประเทศไทย ยกระดับสู่ท่าเทียบเรืออัจฉริยะ (Smart Port) ที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพที่สุดในภูมิภาคอาเซียน” นายอธิรัฐ กล่าว