ดาวโจนส์เพิ่นขึ้นกว่า 280 จุด คาดเฟดเริ่มชะลอการขึ้นดอกเบี้ย เดือน ธ.ค.



  • วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงาน เจ้าหน้าที่เฟดเริ่มกังวลเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วไป
  • นักลงทุนเริ่มซื้อหุ้นสะสม หลังคาดเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% แค่เดือน พ.ย.
  • ตลาดผลประกอบการของบริษัทขนาดใหญ่-ประกาศตัวเลขจีดีพี ไตรมาส 3

เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เคลื่อนไหวที่ระดับ  31,364.56 จุดเพิ่มขึ้น 

282.00 จุดหรือ  +0.91% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 10,840.08 จุด ลดลง 19.64 จุดหรือ  -0.18% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ระดับ 3,777.73 จุด เพิ่มขึ้น 24.98 จุดหรือ  +0.67%

ตลาดหุ้นสหรัฐฯยังคงผันผวน โดยดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวขึ้น หลังคลายกังวลการขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องของเฟด ขณะที่ดัชนีแนสแด็กฯ ลดลง จับตาผลประกอบการของบริษัทขนาดใหญ่ในกลุ่มเทคโนโลยี

หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานว่า เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เริ่มแสดงความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบจากการเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งวิตกเกี่ยวกับความเสี่ยงในการคุมเข้มนโยบายการเงินมากเกินไป โดยแสดงความต้องการที่จะชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้ และเตรียมส่งสัญญาณอนุมัติการปรับขึ้นดอกเบี้ยในอัตราที่ลดต่ำลงในเดือนธ.ค.

นักลงทุนให้น้ำหนัก 93% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมวันที่ 1-2 พ.ย.นี้  แต่ลดการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่อง 0.75% ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในเดือน ธ.ค.

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักเพียง 53.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย0.75% ในการประชุมวันที่ 13-14 ธ.ค. ลดลงจากเดิมที่เคยให้น้ำหนักมากถึง 75%

นางแมรี ดาลี ประธานเฟด สาขาซานฟรานซิสโก กล่าวว่า ถึงเวลาแล้วที่เฟดจะเริ่มหารือกันเกี่ยวกับการชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะช่วยหลีกเลี่ยงการทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรุนแรงเกินไป

นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทขนาดใหญ่ในกลุ่มเทคโนโลยีในสัปดาห์นี้ ได้แก่ แอปเปิล อัลฟาเบท แอมะซอน และไมโครซอฟท์ รวมทั้งการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล  (PCE) ในวันศุกร์ ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ

ขณะเดียวกัน ตลาดจับตาการเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3 ของสหรัฐในวันพฤหัสบดี โดยแบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดของเฟด สาขาแอตแลนตา แสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.9% ในไตรมาส 3 หลังเศรษฐกิจสหรัฐฯ หดตัวติดกัน 2 ไตรมาสในไตรมาสแรก และไตรมาสที่ 2 

ตลาดหุ้นลอนดอนพุ่งขึ้นในวันนี้ ขานรับรายงานข่าวที่ว่า นายริชิ ซูนัก อดีตรัฐมนตรีคลังอังกฤษ ก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษ ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 บวก 0.6% แตะระดับสูงสุดในการซื้อขายระหว่างวัน ขณะที่ดัชนีFTSE 250 พุ่งขึ้น 1.3%