

- ตั้งเป้าปลายปีนี้ เร่งเครื่องเพิ่มรายได้จากตลาดระยะไกล Longhaul เข้าไทยให้ได้ตามเป้ารวม 300,000- 350,000 ล้านบาท
- กระตุ้น ยุโรป อเมริกา ใช้เงินเที่ยวไทยเป็น 70,000 บาท/คน/ทริป จากเดิมใช้แค่ 40,000 บาท
- ปรับงบประมาณจากแผนเดิมมาใช้ทำแผนกระตุ้น หรือ Booster shot
- ลุยเดินหน้าสร้างสรรค์กลยุทธ์ตามสูตรโลกนิยม เช่น 3 R หรือ Re Open, Re Cover, Re Union
นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้เตรียมพร้อมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยว บุกตลาดทีดูแลอยู่ทั้งหมด 4 ทวีป เบื้องต้นตั้งเป้าลุย 5 เรื่องหลัก ประกอบด้วย
เรื่องที่ 1 ททท.ตั้งเป้าปลายปีนี้ ระหว่างตุลาคม-ธันวาคม 2565 ในช่วงตารางบินฤดูหนาว 2023 จะต้องเร่งเครื่องเพิ่มรายได้จากตลาดระยะไกล Longhaul เข้าไทยให้ได้ตามเป้ารวม 300,000- 350,000 ล้านบาท จากนั้นปี 2566 ก็ขยับเพิ่มรายได้ขึ้นไปอีก 3-5% รวมประมาณกว่า 400,000 ล้านบาทขึ้นไป

เรื่องที่ 2 ตั้งเป้ากระตุ้น ยุโรป อเมริกา ใช้เงินเที่ยวเมืองไทยเป็น 70,000 บาท/คน/ทริป จากเดิมใช้แค่ 40,000 บาท/คน/ทริป และ “นักท่องเที่ยวตะวันออกกลาง” จะกระตุ้นใคนรวยเทใช้เงินในไทยให้ถึง 100,000บาท/คน/ทริป เพร่ะลูกค้ารายใหญ่คือ นักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ Health &Wellness
เรื่องที่ 3 ระดม ททท.ทุกสำนักงาน พุ่งเป้าแก้โจทย์ท้าทายมากที่สุดเรื่อง Airlines Focus ร่วมมือและทำหน้าที่ประสานสิบทิศกับสายการบินทั่วโลก ช่วยกันปลดล็อก “การเพิ่มที่นั่งเที่ยวบินระหว่างประเทศ ไป-กลับ ไทยกับประเทศ จุดหมายทางทั้ง 4 ทวีป โดยใช้สูตร A, B ประกอบด้วย A คือ Airlines กับ B คือ Big City and Beyond เน้นจะต้องเชื่อมโยงเที่ยวบินระหว่างเมืองใหญ่กับเมืองรองให้ได้ เช่น ขยายฐานกับสายการบินที่สามารถบินจากเมืองขนาดเล็กในสหรัฐอเมริกาเข้าไทยได้
เรื่องที่ 4 ปรับงบประมาณจากแผนเดิมมาใช้ทำแผนกระตุ้น หรือ Booster shot ก่อนในช่วงนี้ ก่อนที่ลูกค้าจะเบนเข็มเลือกเที่ยวประเทศคู่แข่งที่นำเสนอสิทธิประโยชน์ได้ดีกว่าไทย
เรื่องที่ 5 ททท.เดินหน้าสร้างสรรค์กลยุทธ์ตามสูตรโลกนิยม เช่น 3 R หรือ Re Open, Re Cover, Re Union และถึงเลาต้องชูขายการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน Sustainable Tourism ก่อนจะตกขบวนตลาดโลก

นายศิริปกรณ์ กล่าวว่า “ตลาดยุโรป” หลังสถานการณ์โควิดและทั่วโลกเริ่มทยอยเปิดประเทศ ไทยเองมีความท้าทายจาก3 ตัวแปรหลัก ได้แก่ 1.ทุกประเทศประกาศยกเลิกเงื่อนไขต่าง ๆ เกือบหมดแล้ว ส่วนตั๋วโดยสารเครื่องบินระหว่างประเทศนักท่องเที่ยวยังคงต้องจ่ายราคาแพง และยังขาดที่นั่งเครื่องบินนำนักท่องเที่ยวเข้าไทย 2.สงครามรัสเซีย-ยูเครน มีผลกับการตัดสินใจและเป็นอุปสรรคกับนักเดินทางบางตลาด 3.ไทยและทั่วโลกขาดบุคลากรบริการเหมือนกันหมด แต่การทยอยเปิดบินพอจะช่วยให้นำคนเข้าสู่อุตสาหกรรมลดปัญหาลงได้บ้าง
ตามแผน ททท.ยุโรป เองพุ่งเป้าหมายเจาะตลาดนักเดินทาง 2 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มที่ 1 นักเดินทางครั้งแรกในชีวิต(First visitor) ซึ่งอาจจะยังมองภาพลักษณ์ไทยไม่ค่อยปลอดภัยเท่าที่ควร กลุ่มที่ 2 นักเดินทางกลุ่มมาท่องเที่ยวซ้ำ(repleater)
ส่วน “ตลาด” แบ่งเป็น 1.ตลาดที่มีศักยภาพสูงมาก เช่น อิสราเอล คาซัคสถาน แอร์ซัสตาน่า เริ่มมีเที่ยวบินทยอยเข้าไทยแล้ว 2.ตลาดเกิดใหม่หรือ Emaerging Market ททท.เตรียมทำโครงการ Amazing Thailand Fest นำร่องจัดในประเทศซาอุดิอาระเบีย
โดยภาพรวมตั้งแต่ปลายปี 2565 เป็นต้นไป ททท.จะต้องเร่งเครื่อง ทำการตลาดเชิงรุกเกี่ยวกับ “ท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน :Sustainable Tourism” ควบคู่กับการจัดทำปฏิทินเดินทางทำโร้ดโชว์ เทรดโชว์ ต่อเนื่องตลอดทั้งปี รวมทั้งต้องปรับเกณฑ์คัดเลือกผู้ประกอบการเข้าร่วมงานส่งเสริมการขายโร้ดโชว์ เทรดโชว์ ต่างประเทศ โดยจะทำเช็คลิสต์ให้เอกชนไทยได้ปรับปรุงตัวเอง ด้วยการทำระบบเช็ค 10 รายการ เอกชนท่องเที่ยวท่ะเดินทางไปขายกับ ททท.ในแต่ละงานจะต้องมีคุณสมบัติเกิน 3 รายการขึ้นไป เช่น ต้องมีระบบ กำจัดน้ำเสีย ใช้ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น เลิกใช้พลาสติกหรือเคยได้รับรางวัลสำคัญเกี่ยวกับการท่องเที่ยวสีเขียว
สำหรับ “ซาอุดิอาระเบีย” ยกให้เป็นตลาดรุกหนักกว่าประเทศอื่น ๆ โดยจะเจาะนักท่องเที่ยวรักษาสุขภาพองค์รวมจ่ายหนัก 100,000 บาท/คน/ทริป

ขณะที่ “ตลาดอเมริกา” ภายในปี 2565 ททท.ตั้งเป้ารายได้ไว้ 52,500 ล้านบาท เทรนด์ตลาดตอนนี้คนเริ่มกลับสู่ปกติออกเดินทางด้วยจำนวนใกล้เคียงปกติ แต่ “ประเทศจุดหมายปลายทางท่องเที่ยว” ยังไม่ครบ หลังโควิดกลุ่มนักเดินทางเปลี่ยนไป 1.เที่ยวเป็นครอบครัวหลายเจนรวมกัน 2.เลือกเส้นทางจะมาเฉพาะประเทศไม่เชื่อมโยงไปยังประเทศใกล้เคียงเพราะเงื่อนไขแต่ละประเทศไม่เหมือนกัน 3.เลือกท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนและรับผิดชอบ
ตอนนี้ไฮไลต์ทางแอร์ แคนาดา กลับมาบินตรง ไป-กลับ แคนาดาสู่ไทยเป็นครั้งแรก โดยวางแผนทำโปรโมชั่นร่วมกันเที่ยวบินปฐมฤกษ์สู่สุวรรณภูมิเช้าวันที่ 3 ธันวาคม 2565 แล้ว ททท.ยังพร้อมร่วมกับอีก 2 สายการบิน คือแอร์ เดลต้ากับโคเรียนแอร์ไลน์ส (เกาหลี) ซึ่งสามารถจะบินเชื่อมจากไทยเข้าเมืองรองทั่วอเมริกาได้ด้วย
นายศิริปกรณ์ ย้ำว่า การรุกตลาดอเมริกา จะต้องทำควบคู่กันในส่วนอื่น ๆ ด้วย เช่น 1.ต้องเร่งขับเคลื่อน เรื่องสายการบินตรง และหาสายการบินทดแทนในตะวันออกกลาง เพราะกำลังขาดแคลนที่นั่ง เนื่องจากกาตาร์แอร์เวย์ส ต้องรับผิดชอบจัดแข่งขันฟุตบอลโลก แล้วจะนำฝูงบินกับที่นั่งทั้งหมดไปขนส่งนักฟุตบอลกับแฟนบอลทั่วโลกเข้าประเทศตนเองโดยไม่เพิ่มที่นั่งเข้าไทยและจุดหมายปลายทางอื่น ๆ ทั่วโลก 2.เที่ยวบินเชื่อมโยงเพื่อเพิ่มเที่ยวบิน Regular Flight ตลอดทั้งปีทั้งขาไปและกลับให้ได้ เช่น แอร์ แคนาดา ซึ่งจะต้องใช้พอร์ตตรวจเช็คหนังสือเดินทางที่อเมริกาแล้วเข้าแคนาดา 3.ต้องหาสายการบินพันธมิตรของไทยเข้าไปทำโค้ดแชร์ร่วมบริการเช็คกระเป๋าสัมภาระเที่ยวบินตรงสู่จุดหมายปลายทาง ขณะนี้บางกอก แอร์ไลน์ส นกแอร์ กำลังเจรจาเรื่องนี้
นายศิริปกรณ์กล่าวว่า ล่าสุด มอบโจทย์ให้สำนักงาน ททท.ยุโรป 8 แห่ง เร่งเดินหน้าทำภารกิจ Airlines Focus เช่นททท.ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เตรียมเข้าร่วมงาน World Travel and Tourism Council 2022 ช่วงเดือนธันวาคมนี้ ดังนั้น
ททท.ดูไบ สหรัฐอารับเอมิเรตส์ ดูแลตะวันออกกลาง ต้องคุยกับสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส เข้าเสริมทัพบินจากตะวันออกกลางเข้าสิงคโปร์ ต่อมาไทย เช่น ภูเก็ต กรุงเทพฯ
ททท.ลอนดอน ได้ลงนาม MOU กับ บริติชแอร์เวย์ส ไว้แล้ว แต่ยังไม่ได้บินเข้าไทย อีกทั้งสนามฮีตโธรว์ล่าสุดปลดล็อกเงื่อนไขไม่จำกัดจำนวนวันละ 100,000 คน ดังนี้สำนักงานลอนดอนดูแลแอฟริกาด้วย ช่วงฤดูร้อนต้องการผ่อนคลายเดินทางไปเที่ยวประเทศอื่น ก็ทำตลาดเชิงรุกเช่นกัน
ททท.แฟรงเฟิร์ต เยอรมัน ลุฟท์ฮันซ่า มีสำนักงานอยู่ไต้หวัน จะจับมือกับ เอเชียแปซิฟิก บินไปคุยกับทางลุฟฮันซ่าเพื่อบินไทเป เข้าไทย รวมถึง จะต้องคุยกับทางสวิตเซอร์แลนด์ เอเดไวท์ บินเข้าภูเก็ต
ททท.ปารีส ต้องขับเคลื่อนเที่ยวบินตรงเพื่อเป็นกุญแจความสำเร็จ ต้องกลับมาบินและเพิ่มเส้นทางบิน มีพื้นที่สดใหม่ในเกาะเล็กมีกลุ่มนักเดินทางคุณภาพสูงอายุรวยด้วย แล้วยังต้องร่วมมือกับทางสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส ด้วย

ททท.มอสโคว ตอนนี้ทางแอโรฟอร์ต กลับมาแล้วทำเที่ยวบินเช่าเหมาลำ เพราะคนรัสเซียอยากออกนอกประเทศ ทำเที่ยวบินตรง กับเที่ยวบินเช่าเหมาลำและเที่ยวบินปกติปลายปีนี้เป็นต้นไป
ททท.โรม การบินไทยจะกลับไปบิน กรุงเทพฯ-มิลาน ช่วงมีนาคม 2566 และ อีว่าแอร์ บินมิลานเข้าไทยเช่นกัน รวมทั้งโปแลนด์ โปรตุเกส ก็ต้องหาเที่ยวบินด้วย
ททท.สต็อกโฮม การบินไทยต้องบินตรง หรือ ฟินแอร์ กลับมาแล้วแต่จะต้องเพิ่มความถี่ TUI Airlines พยายามเริ่มบินด้วยเช่นกัน หรือเที่ยวบินเช่าเหมาใหม่ๆ ในสแกนดิเนเวีย
ททท.ปราก อีวีแอร์ ออสเตรีย-กรุงเทพฯ เคยบินแล้วยังไม่ได้บิน ต้องจับมือไปคุยกับสายการบินดังกล่าว และ LOT Airline จากโปแลนด์ จึงได้กำหนดเป้าหมายใหม่ภายในอีก 2 ปี จะต้องบินมาไทยให้ได้ เพราะมีคนรอบประเทศโปแลนด์ ปราก สาธารณรัฐเช็ค เพิ่มเข้ามาไทยได้
เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza,www.facebook.com/penroongyaisamsaen