ทอท.คุยลั่น!ผู้โดยสารกลับมาบินคึกคักมั่นใจปี66กลับมามีกำไร!



ทอท.รับหลังโควิดซบ ปี66 ผู้โดยสารเดินทางผ่านสนามบินทะลักคาดมีผู้โดยสารเดินทางกว่า 109-110 ล้านคน/ปี มั่นใจมีกำไรไม่ต่ำกว่า 1-2 พันล้านบาทและปี67 มั่นใจอุตสาหกรรมการบินสกลับมาปกติเช่นเดิม คาดทอทมีกำไรการดำเนินงานก้าวกระโดดแน่นอน

นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน)(ทอท.) เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่สถานการณ์โควิดคลี่คลาย และเปิดประเทศมากขึ้น ปัจจุบันมีผู้โดยสารเดินทาง ผ่านสนามบินของ ทอท. เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยผู้โดยสารในประเทศขณะนี้มีการเดินทางกว่า 80-90% ส่วน ผู้โดยสารระหว่างประเทศขณะนี้มีการเดินทางกว่า 90,000 ถึง 100,000 คนต่อวัน จากเดิมก่อนสถานการณ์โควิดในปี 62 มี ผู้โดยสารต่างประเทศเดินทางกว่า 200,000 คนต่อวัน อย่างไรก็ตามมั่นใจว่าภายในปี 66 ทอท. จะมีผู้โดยสารเดินทาง70-80% ก่อนเกิดสถานการณ์โควิดระบาดที่109-110 ล้านคนต่อปี ซึ่งคาดว่าจะทำให้ ทอท. กลับมามีกำไรไม่ต่ำกว่า 1,000-2,000 ล้านบาทต่อปี นอกจากนั้นยังมีการคาดการณ์ว่าในปี 67 อุตสาหกรรมการบินกลับมาบินปกติเช่นเดิม ทอท. คาดว่าจะมีผู้โดยสารเดินทางเข้าออกผ่านสนามบิน ทอท. กว่า142 ล้านคน ซึ่งหมายถึงว่า ทอท. จะมีกำไรแบบก้าวกระโดดทันที

อย่างไรก็ตาม ทอท. จะต้องมีการประเมินสถานการณ์ของนักท่องเที่ยวชาวจีนด้วย เนื่องจากที่ผ่านมานักท่องเที่ยวชาวจีนมีสัดส่วนการเดินทางเข้าประเทศไทยอยู่ที่ 26% ของผู้โดยสารต่างประเทศที่เดินทางเข้าออกประเทศไทย หากประเทศจีนเปิดให้นักท่องเที่ยวเดินทางออกนอกประเทศในต้นปี 66 ก็จะส่งผลต่อผลประกอบการของ ทอท. ทันที

นายนิตินัย กล่าวต่อว่า ส่วนแผนการเปิดอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่หนึ่ง หรือ sat1 นั้น ขณะนี้บอร์ด ทอท. ได้อนุมัติที่จะให้เปิดดำเนินการรองรับผู้โดยสารในเดือนก.ย.66 แล้ว ซึ่งมั่นใจว่าในช่วงดังกล่าวจะเป็นช่วงที่คนเดินทางปริมาณมากขึ้น อาคารsat 1 จะช่วยให้การบริการจัดการ กับผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบายมากขึ้นแน่นอน

ส่วนการ ขยายขีดความสามารถของสนามบินสุวรรณภูมิ นั้น ตามแผน ทอท. จะเปิดประมูลส่วนต่อขยายด้านทิศตะวันออก (East Expansion) ภายในต้นปี 66 โดยจะมีการปรับแบบก่อสร้างก่อน และยืนยันว่าแม้มีการปรับแบบแต่วงเงินก่อสร้างจะไม่มีการปรับขึ้นแน่นอน ซึ่งพื้นที่ก่อสร้างดังกล่าวจะมีพื้นที่ใช้สอย 66,000 ตร.ม. รองรับผู้โดยสาร15 ล้านคนต่อปี ส่วนวงเงินลงทุนสร้างส่วนต่อขยายทิศตะวันออกจะอยู่ที่ 7,830 ล้านบาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)