

- จับมือดันยอดการค้า-ลงทุนทะลุ 1 พันล้านใน 5 ปี
- หนุนสายการบินมองโกเลียบินตรงอูลานบาตอร์-ภูเก็ต
- ไทยเสนอตัวเป็นแหล่งผลิตอาหารสร้างความมั่นคง
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า(เจทีซี) ไทย-มองโกเลีย ครั้งที่ 1 ร่วมกับนางบัตต์เซตเสก บัตมุนห์ รมว.การต่างประเทศมองโกเลีย ที่กรุงอูลานบาตอร์มองโกเลียว่า การประชุม ได้ข้อสรุปที่ทั้ง 2 ฝ่าย ตั้งเป้าหมายเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันในอีก 5 ปี หรือในปี 2570 ให้ได้ 100 ล้านเหรียญสหรัฐ จากปัจจุบันที่ 55 ล้านเหรียญฯ และเพิ่มเป้าหมายการลงทุนให้ได้ 1,500 ล้านเหรียญฯจากปัจจุบันที่ 1,034 ล้านเหรียญฯ
นอกจากนี้ ไทยเสนอจะเป็นแหล่งผลิตอาหารให้กับมองโกเลีย เพื่อความมั่นคงทางอาหาร โดยสินค้าที่ไทยจะส่งออกไปมองโกเลีย เช่น ไก่แช่เย็น-แช่แข็ง อาหารทะเลแช่เย็น-แช่แข็งและแปรรูป ผลไม้ น้ำผลไม้ ผลไม้สด ผลไม้กระป๋องอาหารสำเร็จรูป และขนมขบเคี้ยว ขณะที่มองโกเลียจะเป็นแหล่งส่งออกวัตถุดิบสำคัญให้กับไทย เช่น สินแร่หนังสัตว์ผ้าแคชเมียร์ เป็นต้น
“ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงที่จะทำความตกลงและคุ้มครองการลงทุนของกันและกัน โดยฝ่ายไทย กระทรวงการต่างประเทศจะเป็นเจ้าภาพ, เดินหน้าทำอนุสัญญายกเว้นการเก็บภาษีซ้อน เพื่อช่วยส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างกัน และมองโกเลียสนใจเปิดเที่ยวบินตรงอูลานบาตอร์ไปภูเก็ต เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวมองโกเลียในช่วงฤดูหนาว ซึ่งขณะนี้สายการบิน Mongolian Airlines แจ้งความจำนงจะทำการบินแล้ว และกระทรวงพาณิชย์ จะประสานงานกับสถาบันการบินพลเรือน เพื่อเร่งพิจารณาคำขอนี้ให้เสร็จภายใน 2 สัปดาห์ คาดว่า Mongolian Airlines จะพานักท่องเที่ยวบินตรงไปภูเก็ตได้”
นายจุรินทร์ กล่าวต่อถึงผลการจัดกิจกรรมสร้างเครือข่ายการค้าไทย-มองโกเลียว่า มีภาคเอกชนไทยเข้าร่วม 6 บริษัทเป็นบริษัทที่ลงทุนด้านพลังงาน 3 บริษัท และด้านสุขภาพ 1 บริษัท และบริษัทที่สนใจมาเปิดตลาดสินค้าที่นี่ 2 บริษัทโดยปัจจุบัน ผู้ประกอบการไทยมาลงทุนที่มองโกเลียแล้วอย่างน้อย 4 บริษัท ประมาณ 1,000 ล้านเหรียญฯ เช่นบริษัทบ้านปู โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ แต่ในอนาคต คนไทยน่าจะเข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะด้านพลังงานสะอาดอย่างพลังงานแสงอาทิตย์ เพราะมองโกเลียมีแดดจัด และอากาศเย็น จะเป็นการลงทุนที่มีอนาคต