“ดุสิตธานี” Q2 ปี 65 ฟื้นโรงแรม การศึกษา อาหารโต 78% ครึ่งปีหลังรุกร่วมทุน เร่งแผนสร้างสมดุลรายได้&EBIDA



  • “ดุสิตธานี” ฟื้นรายได้ไตรมาส 2 ปี’65 โต 78.5 % เคลื่อนทัพ 3 ธุรกิจหลัก “โรงแรม-การศึกษา-อาหาร” 
  • ขานรับท่องเที่ยวขยับเชิงบวก ผนวกลงทุนวิลลาหรู 4 ประเทศ 
  • ทำสถิติบริหารโรงแรมทั่วเอเชียกว่า 12,000 ห้อง 
  • ลุยร่วมทุนหาโอกาสใหม่ๆ ร่วมทุนธุรกิจอาหารสร้างสมดุลรายได้และ EBIDA

นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ.ดุสิตธานี เปิดเผยว่า บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือDUSIT มีผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2565 ระหว่างเมษายน-มิถุนายน สร้างรายได้ 1,048 ล้านบาท เพิ่มขึ้นช่วงจากเดียวกันกับปีก่อน 78.5% โดยมีปัจจัยสนับสนุนดีขึ้นตามลำดับจาก 3 ธุรกิจ ได้แก่ โรงแรม การศึกษา และอาหารหลังประเทศผ่อานคลายล็อกดาวน์ ทำให้มีกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) 54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 99 ล้านบาท แต่ยังคงผลขาดทุนสุทธิ 258 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันกับปีก่อน 118 ล้านบาท

โดยเฉพาะธุรกิจโรงแรมได้ปัจจัยสนับสนุนจากบริษัทเร่งปรับปรุงประสบการณ์การเข้าพักตอบโจทย์ลูกค้าบวกกับนักท่องเที่ยวออกเดินทางมากขึ้น โรงแรมจึงได้ปรับปรุงห้องพัก พื้นที่ส่วนกลาง กิจกรรมสันทนาการต่าง ๆ เปิดห้องอาหารริมทะเล Nómada และโรงแรมดุสิตธานีหัวหินเปิดบริการเวลเนสเซนเตอร์

อีกทั้งกลุ่มดุสิตธานีเดินหน้าขยายพอร์ตทรัพย์สินธุรกิจโรงแรมและที่พักเพิ่มวิลล่าซึ่งเป็นจุดหมายหลักของนักท่องเที่ยว  4 ประเทศหลัก ได้แก่ อินเดีย บาหลี ญี่ปุ่น และไทย ตลอดไตรมาส 2 ปี 2565 จึงมีโรงแรมภายใต้การบริหารจัดการรวม 332 แห่ง แบ่งเป็น โรงแรม 47 แห่ง วิลล่า 285 แห่ง รวมจำนวนห้องพัก 12,063 ห้อง และการลงทุนใน DREIT

สำหรับผลกำไรสุทธิครึ่งปีแรก 25665 เติบโตสูงขึ้นถึง 396% จากโรงแรมดุสิตธานี มัลดีฟส์ อานิสงค่าเงินบาทอ่อนตัวลง ซึ่งแสดงศักยภาพของโรงแรมกลุ่มดุสิตานีในการลงทุนผ่านกองทรัสต์ สามารถจ่ายปันผลครึ่งปีแรก 0.175 บาท/หน่วยทรัสต์ให้กับผู้ถือทรัสต์

ขณะที่ “ธุรกิจอาหาร” ภายใต้การบริหารของ บริษัท ดุสิตฟู้ดส์ จำกัด ได้เข้าลงทุน 55% ในบริษัทบองชู เบเกอรี่เอเชีย จำกัด เพื่อเข้าซื้อโรงงานผลิตเบเกอรี่ และแฟรนไชส์ขนมอบ “บองชู”  ทั้งในไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีนเพราะมองเห็นโอกาสและศักยภาพธุรกิจอาหารเติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ หลังโควิด-19 คลี่คลายบวกกับเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้น จากนี้ไปบริษัทยังคงมุ่งมองหาโอกาสใหม่ๆ ต่อยอด สร้างผลตอบแทนและสร้างโอกาสเติบโตอย่างแข็งแกร่ง

นางศุภจี กล่าวว่า วางกลยุทธ์ครึ่งหลังปี 2565 ต้อนรับการฟื้นตัวชัดเจนทำให้ธุรกิจหลักดีขึ้น จากการคลายล็อคดาวน์และการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ จึงพร้อมลุยขยายการเติบโตธุรกิจโรงแรม โรงเรียน โดยเฉพาะธุรกิจร้านอาหารจะเน้นสร้างโอกาสการเติบโตให้มากขึ้นตามแผนกลยุทธ์เรื่องกระจายการลงทุนเพื่อสร้างการเติบโตและสมดุล ทั้งในส่วนรายได้และอัตรา EBITDA เพื่อให้บริษัทฯ มีรายได้ที่สม่ำเสมอขึ้น (Recurring Income) ลดผลกระทบจากความผันผวนในธุรกิจโรงแรมซึ่งจะเน้นขยายตัวจากการขายแบบธุรกิจสู่ธุรกิจแบบ Business 2 Business มากขึ้น

นางศุภจีกล่าวตอนนท้ายว่า บริษัทฯ ประสบความสำเร็จเมื่อช่วงต้นเดือนสิงหาคม 2565 ในการออกและเสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนครั้งที่ 1/2565 จำนวน 1,500 ล้านบาท ผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่หรือ High Net Worth ตอบรับดีด้วยการจองซื้อเต็มจำนวน นอกจากจะสะท้อนถึงความมั่นใจของผู้ลงทุนถึงแนวโน้มและโอกาสการเติบโตของกลุ่มดุสิตธานีแล้ว

ความสำเร็จจากการระดมทุนดังกล่าวยังเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับโครงสร้างเงินทุน (Capital Structure) ของบริษัทและเพิ่มความยืดหยุ่นการบริหารจัดการทางการเงินมากขึ้น จะทำให้บริษัทพร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจเตรียมตัวต้อนรับนักท่องเที่ยวตามแผนงานที่วางไว้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยประเทศฟื้นฟูอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจให้แข็งแกร่งในอนาคตได้

เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza,www.facebook.com/penroongyaisamsaen