- นักเศรษฐศาสตร์ธนาคารโลก นักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญ ชี้เป้าไทยเร่งสร้างรูปธรรม “ระเบียงเศรษฐกิจชายแดนเชื่อมโยงเพื่อนบ้าน”
- ดันเศรษฐกิจชาติโตตามเทรนด์ใหม่โลก หันเน้นให้น้ำหนักเศรษฐกิจระดับภูมิภาคเข้มขึ้น
- ยกกรณี “รถไฟฟ้าความเร็วสูง” สปป.ลาว-จีน หนุนค้าชายแดนไทยฉลุย
- สวนวิกฤตโควิดปี’64 พุ่ง 1.71 ล้านล้านบาท บพท.นำงานวิจัยใส่พานให้เอกชนใช้ประโยชน์
ดร.ชนินทร์ มโนภินิเวส นักเศรษฐศาสตร์โครงสร้างพื้นฐาน ภูมิภาคเอเชียตะวันออก และแปซิฟิก ประจำธนาคารโลกประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า ได้เข้าร่วมเวทีการประชุมผู้เชี่ยวชาญ เพื่อแสวงหาแนวทางการยกระดับความมั่นคงและพัฒนาคุณภาพชีวิตชายแดน จัดโดย หน่วยบริหารจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) ที่กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด -19 ส่งผลต่อการค้าขายภายในแต่ละในภูมิภาคเพิ่มสูงขึ้น ทำให้โครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ชายแดนลงทุนได้ดีเรื่องเชื่อมโยงการขนส่งผ่านแดน ตัวอย่างคือรถไฟความเร็วสูง สปป.ลาวและจีนเชื่อมกับไทย ซึ่งปัจจุบันการค้าขายระหว่างอาเซียน และจีนกว่า 95% ของสินค้าอาเซียนที่ส่งไปขายในจีนยังคงขนส่งทางน้ำแต่พอมีรถไฟความเร็วสูงส่งสินค้าไปทางตอนใต้ของจีนได้รวดเร็วขึ้น
เพราะเมื่อดูเรื่อง “ต้นทุนและประสิทธิภาพ” การขนส่ง ซึ่งประสิทธิภาพบางส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องกฎหมาย และกฎระเบียบการขนส่งสินค้าข้ามแดน เพราะบางครั้งปัญหาและอุปสรรคอันเกิดจากกฎระเบียบของแต่ละประเทศที่มีความแตกต่างกันด้วย
ขณะที่การพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจ แต่ละประเทศจำเป็นต้องหารือให้ชัดเจนถึงความร่วมมือกัน เพราะปัจจุบันทุกประเทศในระเบียงเศรษฐกิจเดียวกันต่างก็ประกาศจะเป็น “ศูนย์กลาง-HUB” ทั้งหมด ย่อมทำให้ระเบียงเศรษฐกิจหมดความหมายไป เช่น การเชื่อมโยงจากไทย สู่ สปป.ลาว ไปยังเวียดนาม จะเกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจร่วมกันได้มากขึ้น เมื่อคำนึงถึงความเข้าใจอันดี ความสมดุล ความเป็นธรรม และความเป็นมิตรที่ดีต่อกันมากขึ้น
พลเอกสุรสิทธิ์ ถนัดทาง ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยยุทธศาสตร์ไทย–จีน สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กล่าวว่า พื้นที่ชายแดนนั้นมีศักยภาพที่สามารถยกระดับให้เป็นพื้นที่เศรษฐกิจหลักได้ เห็นได้จากมูลค่าการค้าชายแดนขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะภาคใต้สามารถเชื่อมโยงไปไกลตั้งแต่มาเลเซีย สิงคโปร์ จนถึงอินโดนีเซีย ส่วนชายแดนภาคอีสานในจังหวัดหนองคาย กำลังตื่นตัวอย่างมากกับ สปป.ลาว มีรถไฟฟ้าความเร็วสูง
ขณะนี้แม่น้ำโขง เดิมทีไม่ใช่เส้นกั้นพรมแดน แต่เป็นเส้นทางที่ไทยและเพื่อนบ้านใช้ร่วมกัน พอเป็นเส้นแบ่งวิธีคิดก็เปลี่ยนไป ต้องเปลี่ยนทัศนคติเดิมให้หมดไป แล้วมาสร้างความรู้มาแลกเปลี่ยนกัน ทุกประเทศต้องร่วมมือกันทำสิ่งเหล่านี้ขึ้นมา เป็นเศรษฐกิจสังคมร่วมกัน และต้องเป็นอย่างนี้ในทุก ๆ พื้นที่ชายแดนด้วย
นายพัฒนาสิทธิสมบัติประธานคณะกรรมการเพื่อโครงการสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจกล่าวว่าการสร้างความเข้าใจเป็นสิ่งสำคัญเช่นกรณีโครงการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (GMS)ทำให้เกิดเป็นระเบียงเศรษฐกิจของแม่น้ำโขงที่เชียงรายระยะเริ่มต้นจังหวัดอื่นๆก็เห็นเป็นเรื่องของเชียงรายเท่านั้นแต่ปัจจุบันทุกจังหวัดภาคเหนือเกิดความเข้าใจและเห็นประโยชน์ร่วมกันแล้วต่างจากตอนแรกไม่ค่อยได้รับความสนใจอย่างลำพูนมีนิคมอุตสาหกรรมก็ใช้สินค้าจากโรงงานจะเข้าตลาดGMSได้อย่างไรจึงหันมองแบบภูมิภาคนั่นเอง
ตั้งแต่อดีตปัญหาการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนคือ เรื่องจุดผ่านแดน เพราะมักจะเน้นการลงทุนโครงสร้างตามด่านผ่านแดน ขณะที่กฎระเบียบการผ่านแดนนั้นยังมีข้อจำกัดอยู่มาก ตามนโยบายของแต่ละประเทศทำให้เป็นต้นทุนการทำธุรกิจที่สูงมาตลอด
ขณะที่ “ศ.ดร.รุธิร์ พนมยงค์” คณบดีคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า การพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจชายแดน นอกจากการเชื่อมต่อซึ่งเป็นหัวใจสำคัญแล้ว ยังต้องพิจารณาเรื่อง กรอบปฏิบัติ กฎระเบียบ ข้อตกลงต่าง ๆ ระหว่างประเทศ ทั้งระดับทวิภาคี ไตรภาคี พหุภาคี หรือระดับอนุภูมิภาค หรือภูมิภาค ซึ่งแต่ละประเทศจะต้องปรับปรุงให้เกิดความเชื่อมโยงระหว่างกันให้ได้
แต่ที่ผ่านมาข้อต่ออ่อนแอที่สุดคือ “จุดผ่านแดน” ซึ่งเป็นหัวใจหลักเมื่อพูดถึงการเชื่อมโยง และเป็นความท้าทายอย่างมากเพราะมีการบริหารโดยนโยบายภายในของรัฐ ถ้าพิจารณาให้สอดคล้องระหว่างความต้องการของภูมิภาคและความต้องการภายในจะสร้างประโยชน์มากกว่าอย่างแน่นอน
ศ.ดร.รุธิร์ ชี้ว่าความสำเร็จของระเบียงเศรษฐชายแดนอยู่ที่การสร้างความคล่องตัวของข้อมูล กายภาพ และเงินทุน ซึ่งทั้งสามปัจจัยจะส่งผลให้ระเบียงเศรษฐกิจประสบความสำเร็จอย่างเต็มศักยภาพ
ทางด้าน “รศ.ดร.ปุ่น เที่ยงบูรณธรรม” รองผู้อำนวยการฝ่ายแผนและยุทธศาสตร์องค์กรของ บพท. กล่าวว่า ภายหลังการประชุมดังกล่าวถึงการเชื่อมโยงทางการค้าและมูลค่าทางเศรษฐกิจในภูมิภาคอินโดจีนปัจจุบันเติบโตขึ้นมาก ทางประเทศไทยก็มีนโยบายเรื่องเขตเศรษฐกิจพิเศษมาก แต่การเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากนโยบายนี้ยังทำได้ไม่มากเท่าที่ควร
ปี 2566 บพท.จึงตั้งเป้าหมายส่งเสริมการวิจัยด้านต่าง ๆ เช่น การเชื่อมโยงชายแดนด้วยคนและวัฒนธรรม การเชื่อมโยงด้วยโครงสร้างพื้นฐาน การเชื่อมโยงด้วยการลงทุน และการเชื่อมโยงทางนโยบาย เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจชายแดนให้ดียิ่งขึ้น โดยมีข้อยืนยันชัดเจนจากข้อมูลกระทรวงพาณิชย์ระบุว่ามูลค่าการค้าชายแดนปี 2564 ทำได้ถึง 1.71 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 33 % จากปี 2563 ทั้งที่สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ยังคงอยู่ ดังนั้น บพท.จึงหวังให้ทุกฝ่ายนำงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ เพื่อช่วยขยายเศรษฐกิจให้แก่ประเทศ เป็นระเบียงเศรษฐกิจที่ยั่งยืน สร้างความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย อย่างมั่นคงแข็งแรง
เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน#gurutourza,www.facebook.com/penroongyaisamsaen