

- ลั่นวันนี้ขอพูดเปิดอกไม่ปกปิด ชี้เน้นบริหารประเทศแบบดูแลคนในครอบครัว
- อธิบายประเด็นราคาน้ำมันแพง เป็นตามกลไกตลาด ลั่นรัฐบาลทำเต็มที่เพื่อกระทบประชาชนให้น้อย
- ด้านที่ดินทำกิน ย้ำประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีปัญหา รัฐยังให้สิทธิ์ใช้ที่ดินอยู่ในการใช้ประโยชน์ แต่จะเอาไปขายไม่ได้
- เผยตั้งแต่เป็นนายกฯ ตนไม่ได้ไปไหนเป็น 10 ปีแล้ว ทำงานกลับบ้านๆ ตรวจเยี่ยมประชุม
- ตัดพ้อหมดแล้วชีวิตตน ไม่บ่น บ่นแล้วเดี๋ยวคนไล่ออกอีก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (4 ส.ค.65) ที่จังหวัดกาญจนบุรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พร้อมคณะเดินทางถึงจุดจอดเฮลิคอปเตอร์ สนามหน้าที่ว่าการอำเภอห้วยกระเจา ตำบลห้วยกระเจา อำเภอห้วยกระเจา จังหวัดกาญจนบุรี โดยมี ส.ส.กาญจนบุรี พรรคพลังประชารัฐ ให้การต้อนรับ พล.อ.สมชาย วิษณุวงศ์ เขต 1
นายสมเกียรติ วอนเพียร เขต 2 นายธรรมวิชญ์ โพธิพิพิธ เขต 4 นายอัฎฐพล โพธิพิพิธ เขต 5 จากนั้นนายกฯ เดินทางด้วยรถยนต์โตโยต้าอัลพาร์ด ทะเบียน กธ 5969 กาญจนบุรี ไปยังบ้านทุ่งคูน หมู่ที่ 19 ตำบลห้วยกระเจา อำเภอห้วยกระเจา เพื่อตรวจติดตามการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค และการเกษตร ที่โครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้ง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยมีนายศักดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลรายงานการดำเนินการ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้ตนได้เห็นถึงความสดใส รวมถึงเห็นถึงความสำเร็จโดยเฉพาะในการแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำ ซึ่งรัฐบาลมีความพยายามทำทุกอย่างเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนโดยรวม ซึ่งภาคการเกษตรมีปัญหาพอสมควรในเรื่องการเพาะปลูกที่ต้องใช้น้ำปริมาณมากและพื้นที่นี้เป็นพื้นที่ฝนน้อย วันนี้เราเดินหน้าไปสองทางด้วยกันคือ เดิมการบริหารจัดการที่มีกฎมีระเบียบและเดินหน้าประเทศเป็นรัฐบาลดิจิทัล ฉะนั้นขอให้ประชาชนติดตามการใช้ประโยชน์จากดิจิทัลด้วย ตนยินดีได้มาพบปะประชาชน คิดมาหลายวันแล้วว่าทำอย่างไรประชาชนจะมีความสุขมีความพึงพอใจ ซึ่งความจริงคิดมาหลายปีแล้ว และพยายามทำมาเรื่อยๆ หลายอย่างก็ง่าย หลายอย่างทำได้เลย หลายอย่างต้องแก้ไขกฎหมาย ระเบียบ กติกาต่างๆ รัฐบาลต้องทำให้ปลอดภัยในทางกฎหมายด้วย ซึ่งสิ่งที่ทำได้ทั้งหมดก็ด้วยความร่วมมือของพี่น้องประชาชนทั้งสิ้น
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในเรื่องน้ำนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ตามที่ทรงรับสั่งไว้ในเรื่องการสืบสาน รักษา ต่อยอด ทรงรับสั่งมากับรัฐบาลขอให้ช่วยดูแลประชาชนในเรื่องการจัดหาโครงจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่ วันนี้ 15 โครงการ ครอบคลุม 11 จังหวัด และจะมีต่อไปอีก ซึ่งวันนี้พระองค์ทรงรับไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า อีกสิ่งที่ตนกังวลคือน้ำท่วมและน้ำแล้งที่เราห้ามอะไรไม่ได้เพราะเป็นเรื่องของธรรมชาติ แต่เราต้องอยู่ให้ได้อย่างระมัดระวัง เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ รัฐบาลพยายามอย่างยิ่งยวดในการแก้ไขปัญหาตรงนี้ให้ แต่โลกเปลี่ยนแปลง ขอให้ทุกคนติดตาม และวันนี้มีเรื่องพลังงานเข้าไปอีก รัฐบาลพยายามอย่างเต็มที่ในการดูแลประชาชน แต่ก็ต้องมีกรอบ มีวิธีการ มีกฎหมาย มีระเบียบเยอะแยะไปหมด ตนพยายามจะทำให้ดีที่สุด ตนยืนยัน
“วันนี้ถือโอกาสมาเยี่ยมเยียนผลงานของรัฐบาลและของทุกคน และต้องขอขอบคุณผู้ที่เสียสละที่ดิน ต้องอย่างนี้ เสียสละส่วนน้อยเพื่อประโยชน์ส่วนใหญ่ให้กับคนอื่น นี่เรียกว่าทำกุศล โดยเฉพาะเรื่องให้น้ำให้อะไรคน กุศลมาก คนเราสิ่งที่จะดีที่สุดคือให้ รู้จักให้ ผมตื่นมาผมก็ให้ ให้อะไรไม่ได้ผมก็ให้จิตใจกับเขา ให้ความรักไปกับเขา และเดี๋ยวก็ทำให้เขาดีขึ้นนี่คือกุศล มันอาจจะไม่เห็นในตอนนี้ ตอนไหนก็แล้วแต่ แต่สิ่งสำคัญที่สุดเราจะมีความสุข แม้จะมีปัญหาอุปสรรคอะไรอยู่บ้าง ผมก็เอาเหล่านี้มาเป็นความสุขของผม ผมก็ได้ทำในสิ่งที่ผมทำสำเร็จ อันไหนไม่เสร็จก็พยายามต่อไป” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ปัญหามีหลายอย่างด้วยกัน อยากกราบเรียนให้ทุกคนทราบว่านายกฯเต็มที่ รัฐบาลเต็มที่ ในสภา ส.ส.ก็ร่วมมือกันไปได้หมดประเทศ สำคัญคือพวกเรา คือประชาชน เข้าใจด้วยกันก็ไปได้หมด
นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ในอีก 2 เดือน และเดือนหน้าให้ระวังเรื่องน้ำหน่อยเข้าฤดูฝนในช่วงเดือนส.ค.-ก.ย. เตรียมการรับน้ำ เก็บของไว้หน่อย จัดลำดับการขนย้าย จังหวะนี้นายกฯได้ถอนหายใจ พร้อมกล่าวว่า พูดไปด้วยคิดไปด้วยก็เหนื่อย ต้องลงมือทำด้วย จะพูดปากเปล่าไม่ได้จริงๆ แล้วพวกเราคิดมาตลอด ข้าราชการก็ฝากไว้ด้วยแล้วกัน ต้องเข้าเกียร์ตลอด เกียร์ว่างไม่ได้
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้เปิดโอกาสให้ประชาชนซักถาม ซึ่งประชาชนได้ลุกขึ้นถามถึงราคาน้ำมันที่แพงในขณะนี้ โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวชี้แจงว่า น้ำมันแพงมันคือปัญหา ตนก็ไม่อยากจะแก้ตัว ซึ่งน้ำมันแพงต้องดูว่าน้ำมันมาจากไหน ไม่ว่าจะซื้อจากไหนก็ตาม ก็จะไปสู่ราคากลางทั้งหมด เพราะเป็นน้ำมันดิบขายกันในตลาดโลก และไม่ว่าจะซื้อจากที่ไหนก็จะมีค่าขนส่ง ไม่ใช่ราคาต้นทุนน้ำมันเท่านี้ จะขายเท่านี้หรือไปลดราคาได้ มันถูกควบคุมทั้งหมด นี่คือกลไกของโลก ในเรื่องพลังงาน สิ่งที่รัฐบาลทำได้ในตอนนี้คือการหาเงินมาอุดหนุนตรงนี้ และวันนี้ 40-45 บาทมาตลอด และที่ผ่านมาเราคงราคาไว้ให้นานที่สุดคือ 35 บาท ซึ่งวันนี้ถูกกว่าประเทศรอบบ้าน แต่อย่าไปเทียบกับประเทศเมียนมาร์ มาเลเซีย เขามีการบริหารคนละแบบและมีแหล่งพลังงานที่มากกว่าเรา และเราซื้อจากเขาทั้งแก๊สและน้ำมันเข้าใจหรือไม่ ถ้าเราไม่คงราคาตรงนี้ไว้ก็ขึ้นไป 40 บาทแล้วมันจะไม่หนักกว่านี้หรือ รัฐบาลพยายามที่จะหาวิธีที่การเหมาะสมเพื่อช่วยเหลือประชาชน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ต้องเข้าใจว่าตอนนี้ไม่ใช่สถานการณ์ที่ปกติถ้ายังรบอยู่แบบนี้ ก็มี 2-3 ค่ายเรื่องการผลิตน้ำมัน ก็เป็นกลุ่ม แต่ละกลุ่มก็ไม่ยอมลดราคากัน สู้กันอีก เราก็พยายามจะไปให้ได้ ซึ่งก็มีผลนำไปสู่ต้นทุนการผลิต ต้นทุนอาหารอะไรต่างๆ ก็พยายามทำให้ได้มากที่สุด โดยกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้พยายามทำตรงนั้นตรงนี้ และวันนี้ทุกคนทราบดีว่า รัฐบาลใช้เงินกองทุนน้ำมันไปแสนกว่าล้าน เมื่อต้องเพิ่มเติมก็ต้องหาเงินอีก ช่วงนี้ยังโอเค รัฐบาลยังมีรายได้เพียงพอจากการเปิดประเทศ และนั่นก็เป็นอีกเรื่องในเรื่องสุขภาพ รัฐบาลต้องบริหารงานในภาพใหญ่ แต่ตนก็เห็นใจและพยายามจะทำให้ดีที่สุด
หลังจากนั้นพี่น้องประชาชนได้ถามถึงปัญหาที่ดินทำกิน นายกฯ ได้กล่าวชี้แจงว่า เมื่อสักครู่ได้รับฟังรายงานแล้วเดี๋ยวจะดูให้ว่าจะทำได้อย่างไร เพราะตรงนี้มีทั้งพื้นที่อ้างสิทธิ์ พื้นที่ทับซ้อน หลายคนอยู่ในขบวนการพิสูจน์สิทธิ์ ทำอย่างไรจะไม่ให้เดือดร้อน นี่คือข้อสำคัญที่เป็นบทเรียน เราอยู่กันมายาวนานมาก กฎหมายก็คือกฎหมาย รัฐบาลนี้พยายามแก้ไข อะไรที่ทำได้ก็นำไปสู่กระบวนการดำเนินการต่อไป

อย่างไรก็ตามประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีปัญหา รัฐบาลยังไม่ให้ออกจากพื้นที่ ให้สิทธิ์ใช้อยู่ในการใช้ประโยชน์ แต่จะเอาไปขายไม่ได้ เพราะรัฐบาลให้ไว้เป็นพื้นที่ทำกินให้ลูกให้หลาน ต่อไปเรื่อยๆแบบนี้ได้ และประชาชนก็ต้องรู้ว่าจะต้องไปติดต่อหน่วยงานไหน ไม่เช่นนั้นจะโดนทั้งสองหน่วย นี่คือสิ่งที่รัฐบาลตั้งใจจริง และทำมานับล้านไร่หลายพื้นที่หลายจังหวัด และวันนี้ก็รับปัญหามาโดยตรงเดี๋ยวจะไปดูให้
นอกจากนี้ ประชาชนยังได้ถามถึงเรื่องสินค้าราคาแพง โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตอบว่า ของแพงก็รู้ว่าแพง ตนก็เห็นใจ รัฐบาลอยู่ตรงนี้ก็ต้องบริหารตรงกลาง ทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภค ซึ่งผู้ผลิตก็มีค่าใช้จ่าย มีต้นทุนสูง ซึ่งเราต้องควบคุมทั้งหมดเป็นห่วงโซ่ หลายคนถามทำไมไม่ไปบีบตรงโน้น ตนถามถ้าเราบีบมากๆโรงงานปิดแน่นอนไปไม่ได้แน่นอน ตนไม่ได้เอาใจเขา แต่มันเป็นธุรกิจที่ต้องเชื่อมโยงต่อ หากไม่ทำโรงงานปิดหมด เราจะเอาอะไรกิน เพียงแต่เขาต้องคิดราคาให้เป็นธรรม หากพลังงานขึ้นเขาต้องคิดเท่าไหร่ ตนพูดเปิดอกแล้ว สิ่งสำคัญต้องมองสองทางเสมอ เรามองเฉพาะตัวเรา เราจะรู้ว่าเราเดือดร้อน แต่ถ้าเรามองภาพใหญ่ออกมาต้องเปิดหลักคิดใหม่ โดยเฉพาะประชาชนตนไม่ได้โทษอะไร พวกท่านมีครอบครัว ลูกหลานหลายคนจะดูแลอย่างไรให้ทุกคนพอใจไม่ขัดแย้ง ไม่ทะเลาะกัน
ซึ่งก็เหมือนกันรัฐบาลก็ทำแบบนี้ ไม่ให้ล้ม ผู้ประกอบการล้มหมดอย่างอื่นตามไปหมด ตนไม่ได้ตามใจใครอยู่แล้ว มีคณะกรรมการดูเต็มที่ ตนว่าเดี๋ยวมันก็ดีขึ้นอยู่ที่ว่าเราใช้ชีวิตกันอย่างไรในช่วงนี้ ก็จะลำบากหน่อย อดทนหน่อย ตนก็ไม่ได้ใช้จ่ายอะไรที่มันฟุ่มเฟือยอะไรเลย กินก็ปกติธรรมดากับเขา เที่ยวเตร่ก็ไม่ได้ไปไหน เป็นนายกฯ ไปไหนไม่ได้อยู่แล้วมันลำบากลูกน้องก็ห่วง ตนไม่ได้ไปไหนเป็น 10 ปีแล้ว ทำงานกลับบ้านๆ ตรวจเยี่ยมประชุม หมดแล้วชีวิตตน ไม่บ่น บ่นแล้วเดี๋ยวคนไล่ออกอีก เล่าให้ฟังว่าเป็นนายกฯมันไม่สบายนักหรอก โอเควันนี้มาพบประชาชนถือว่าเราเป็นครอบครัวเดียวกัน ครอบครัวคนไทยขอให้รักษาโครงการนี้อย่าให้เสีย
จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ ได้ถ่ายรูปกับประชาชนที่มาให้กำลังใจ พร้อมกล่าวว่า “ขอให้ดูแลตัวเองให้ดีระมัดระวังโควิด-19 กันด้วย”