

- ททท.ชูขาย “หรอยแรงแหล่งใต้” ปลุกเที่ยว 14 จังหวัด
- ตื่นตากับสินค้าท่องเที่ยว “NFT-ธรรมชาติ+อาหาร+ไทยเนส”
- กระตุ้นคนไทยและทั่วโลกเฮโลเที่ยว กิน ฟิน ช้อป วิถีใหม่
- ปั้น 3 คลัสเตอร์โกยรายได้ “เมืองหลัก”ชูเทศกาลปัง ๆ “เมืองรอง”
- บูมเส้นทางสายกรีน SDGs “5 เมืองชายแดนใต้” อีเวนต์มาร์เก็ตติ้ง
- เน้นกลยุทธ์นำเอกชน “โรดโชว์เทรดโชว์” ข้ามภาคในประเทศและต่างประเทศ
- ปักหมุด ส.ค.นี้ บุกอินเดีย ตามด้วย ก.ย.65 ลุยเกาหลี
นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า วางกลยุทธ์กระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวนำรายได้เข้าสู่ภาคใต้ช่วงครึ่งปีหลังตั้งแต่ มิถุนายน-ธันวาคม 2565 ในพื้นที่ 14 จังหวัด มี ททท.รับผิดชอบทั้งหมด 11 สำนักงาน พุ่งเป้าส่งเสริมตลาดการขายภายใต้ธีม “หรอยแรง แหล่งใต้” ซึ่งสามารถสื่อความหมายถึงสินค้าท่องที่ยวซึ่งมีอย่างหลากหลายแบบ“พหุวัฒนธรรม” ทั้งไทย จีน พุทธ มุสลิม สามารถนำเข้าสู่ “ประสบการณ์” เข้าถึง “แหล่งท่องเที่ยว” ได้ นอกเหนือจากภาพจำทั่วไปซึ่งคนส่วนใหญ่จะเข้าใจว่าเที่ยวทะเลได้เพียงอย่างเดียว ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2565 เป็นต้นไปจึงได้นำ “สินค้า-หรอยแรง แหล่งใต้” เสนอผ่าน NFT ประกอบด้วย

1.N คือNature แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติภาคใต้มีชื่อเสียงระดับโลกอยู่แล้ว พอหลังสถานการณ์โควิด-19 สถานที่ฟื้นตัวยิ่งมีความสวยงามมากขึ้น ททท.จึงหาวิธีป้องกันรักษาควบคู่กับสร้างการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบใส่ใจสิ่งแวดล้อมให้เกิดความยั่งยืน
ปัจจุบันมี “แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม” ได้แก่ เกาะหลีเป๊ะ เกาะเต่า กะตะ/กะรน Unseen Thailand New Series เช่นเกาะผ้า จ.พังงา คลองหรูด จ.กระบี่ เกาะหมาก จ.พัทลุง
ส่วน “กิจกรรม” ดำน้ำ กำลังฮ็อตมากเพิ่มขึ้นคือ Free Dive ดำดิ่งลงใต้น้ำโดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์ ต่างจากดำผิวหน้า(Snoking) หรือดำน้ำลึก (Scuba)
2.F คือ Food อาหารเอกลักษณ์ภาคใต้ มีรสจัดจ้าน ผสมผสานความหลากหลายทางวัฒนธรรมอันโดดเด่น ทั้งอาหารท้องถิ่นใต้แท้ ๆ อาหารทะเล อาหารใต้แบบจีน หรืออาหารใต้แบบมุสลิม รวมทั้งภาคใต้ยังมีร้านอาหารที่ได้มิชลินอย่าง บิ๊บคุมองต์ หลายแห่งด้วยกัน แล้วยังมี “กาแฟ” เช่น กาแฟโรบาสต้า จ.ชุมพร เป็นแหล่งผลิตกาแฟมีชื่อเสียงโด่งดังรสชาติเข้มข้นไม่เหมือนกัน โดยรวมแล้วภาคใต้มีอาหารให้เลือกครบทุกสไตล์ อาหารถิ่น อาหารในตำนานอาหารขึ้นเหลา โดยมีเชฟต่าง ๆ ที่รังสรรค์ โดยใช้วัตถุดิบในท้องถิ่นปลา หอย และอื่น ๆ มาปรุงรสชาติอร่อยได้รับความนิยมสูงขึ้นทุกวัน

3.T คือ THAINESS มีสินค้าหลัก 3 เรื่องด้วยกัน คือ เรื่องที่ 1 การแสดงศิลปวัฒนธรรม ตัวอย่าง “โนราห์” ทางยูเนสโก้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเรียบร้อยแล้ว ถึงโนราห์จะเป็นการแสดงชั้นสูงก็จริง แต่เบื้องหลังยังคงมีเรื่องราวความน่าสนใจนำไปสู่การเข้าไปเรียน รวมถึงการร้อยลูกปัดทำเป็นของที่ระลึก
เรื่องที่ 2 ศาสนา สายมูต้องมา ไม่ว่าจะเป็น ไอ้ไข่ วัดเจดีย์ จ.นครศรีธรรมราช พรานบุญวัดยางใหญ่ ท้าวเวสสุวรรณและอีกมากมาย เรื่องที่ 3 เที่ยวงานประเพณี ททท.ยังคงสนับสนุน สักการะเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว นราธิวาส กำลังเตรียมส่งเสริมการท่องเที่ยวเทศกาลกินเจ ประเพณีชักพระ ผนวกเข้ากับการท่องเที่ยวชุมชนสัมผัสวิถีไทย เช่น ชุมชนทะเลน้อย จ.พัทลุง ชุมชนตันหยีเพ็ง จ.สตูล พรหมโลก จ.นครศรีธรรมราช เรื่องที่ 4 สินค้าท้องถิ่น เช่น กระจูด เตยปาหนันผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางค์ที่ทำจากน้ำมันมะพร้าว

กลยุทธ์การขายสินค้าท่องเที่ยวตามคอนเซ็ปต์ NFT ททท.จะพุ่งเป้าบางอย่างขายตลาดในประเทศ บางอย่างขายตลาดต่างประเทศ เช่น ท่องเที่ยวเรือยอร์ชชมพระอาทิตย์ขึ้นหรือตกในทะเล เดิมนักท่องเที่ยวมองเป็นสินค้าราคาแพงแต่ช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา คนไทยให้ความสนใจเที่ยวยอร์ชดินเนอร์เป็นจำนวนมาก
สำหรับกลยุทธ์การขายท่องเที่ยวในภาคใต้ หลังสถานการณ์โควิด-19 ททท.เน้นช่วยเหลือผู้ประกอบการในท้องถิ่นจัดโปรโมชั่นพิเศษกับพันธมิตร เช่น งานคอนซูเมอร์ แฟร์ จัดร่วมกับภูเก็ต ทำโครงการ 1.ภูเก็ต เด็ดทั้งเกาะ ตะเวนจัดในภาคใต้ด้วยกันทั้งที่หาดใหญ่ สงขลา หรือข้ามภาคไปจัดในอีสาน และปลายปีนี้จะจัดเพิ่มจังหวัดต่าง ๆ ด้วย2.จัดงานขายไทยเที่ยวไทยรวมถึงจัดกิจกรรมต่าง ๆ 3.จัดงาน Dive Expo เพิ่งจัดเสร็จสิ้นไปทำยอดขายค่อนข้างประสบความสำเร็จมาก 4.จัดงานอีเวนต์มาร์เก็ตติ้ง มีมากมายทั้งทางบก ทางน้ำ การจัดงาน Aqual Luminar การจัดเทรล การเล่นหรือแข่งขันกีฬา Surf ซึ่งทั้งหมดเป็นกิจกรรมที่สามารถกระตุ้นนักท่องเที่ยวเข้าไปยังพื้นที่มากที่สุด
ผอ.ภัทรอนงค์ กล่าวเพิ่มว่า ปี 2565 ททท.ภูมิภาคภาคใต้ ได้แบ่งการท่องเที่ยวใน 14 จังหวัด เป็น 3 คลัสเตอร์ประกอบด้วย

คลัสเตอร์ที่ 1 เมืองหลัก 4 จังหวัด ได้แก่ ภูเก็ต กระบี่ พังงา สมุย(สุราษฎร์ธานี) ส่วนใหญ่มุ่งขายสินค้าหลัก ๆ เกี่ยวกับจัดงานเฟสติวัล ดนตรี กีฬาทางบก ทางน้ำ ทำโปรโมชั่นกระตุ้นช่วงนอกฤดูเดินทาง (low season) ซึ่งตอนนี้ ภูเก็ตพังงา กระบี่ เข้าฤดูโลว์ซีซันแล้ว ต่างจากสมุยยัเป็นฤดูท่องเที่ยว (high season) ปัจจุบันยังมีนักท่องเที่ยวค่อนข้างมาก
เทศกาลใหญ่ที่เริ่มจัดไปบ้างแล้วคือ กิจกรรมแรก Rock on the Beach Music Festival เพื่อสร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวท้องถิ่น (Local Experience) ส่วนหนึ่งในการผลักดัน Soft Power ส่งเสริมท่องเที่ยวเทศกาลดนตรี 2 พื้นที่ได้แก่ กระบี่ จะจัด 24-26 มิถุนายน 2565 และภูเก็ต จัดไปเรียบร้อยแล้วเมื่อ ภูเก็ต ระหว่าง 17-19 มิถุนายน นี้ภายในงานเทศกาลยังนำเสนอขายอาหารและผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น ผู้ประกอบการในพื้นที่นำสินค้าแล้วททท.แจกคูปองส่วนลดกว่า 3,000 ใบ
กิจกรรมที่สอง Phuket Great Time รวบรวมดีลโปรโมชั่นสินค้าบริการท่องเที่ยวภายในภูเก็ตมาขายให้นักท่องเที่ยวคนไทย แต่ทาง “เกาะสมุย” ได้จัด Bangkok Airways Butique Series บางกอกแอร์เวย์สร่วมกับ ททท.จัดสนามแรกที่สมุยเรียบร้อยแล้ว กันยายนนี้สนามต่อไปจะจัดที่พังงา ช่วงจัดแต่ละงานจะผนวกความร่วมมือกับท้องถิ่น เช่นโรงแรม ร้านอาหาร ทำโปรโมชั่นราคาพิเศษมอบให้นักวิ่งได้ใช้จ่ายเงินต่อเนื่องทุกครั้ง

คลัสเตอร์ที่ 2 เมืองรอง 5 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร ระนอง นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง ครึ่งปีหลังจะนำเสนอแพกเกจเส้นทางต่าง ๆ โดยสอดแซกกิมมิกอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน SDG-Sustainable Development Goals เช่น ลดการใช้พลาสติก แยกขยะ ส่วนใหญ่จะทำเป็นทริปร่วมกันพันธมิตรหลักร่วมกับ จส.100 ทำเส้นทางการเรียนรู้วิถีชีวิต วัฒนธรรม อาหารถิ่น และเส้นทางสายมู ที่พัทลุง กับนครศรีธรรมราช
คลัสที่ 3 เมือง 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 4 จังหวัด ได้แก่ ปัตตานี นราธิวาส ยะลา สงขลา สตูล จะเน้นทำอีเวนต์มาร์เก็ตติ้ง ต้อนรับการเปิดเมืองหลังจากสงขลาเงียบไประยะหนึ่งตอนนี้มีนักท่องเที่ยวมาเลเซียเข้ามาแล้ว ผนวกกับการส่งเสริมท่องเที่ยวเชื่อมโยงสู่ชายแดน เช่น หรอยแรงแหล่งใต้@เบตง ร่วมกับนกแอร์ ตั้งเป้าทำให้สงขลาเป็นศูนย์กลางหรือฮับบินจากสงขลาลงไปเที่ยวสตูล ปัตตานี ยะลา นราธิวาส
รวมทั้งบุกทำอีเวนต์ มาร์เก็ตติ้ง เพราะช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมามีคนรุ่นใหม่สงขลากลับไปอยู่บ้านแล้วพัฒนาธุรกิจขนาดเล็ก เช่น ร้านคาเฟ่ มีถนนหลายสายเป็น HIP ของกลุ่มคนรุ่นใหม่กำลังเจรจากันอยู่จะชวนนักท่องเที่ยวไปทำART & CRAFT หรือทำ HADYAI SITE WALK ร่วมกันออกร้านอาหารท้องถิ่นของคนในพื้นที่สไตล์เทรนดี้ขายผลิตภัณฑ์ออกแนวร่วมสมัยเพื่อดึงดูดตลาดต่างประเทศได้ด้วย
ขณะนี้มีไฮไลต์การท่องเที่ยวทำกิจกรรม “แคมปิ้ง” เริ่มได้รับนิยมมากขึ้นจากากรพลิกวิกฤตโควิดเป็นโอกาสทำให้คนหันมาออกแคมปิ้งมากขึ้น สินค้าเอาท์ดอร์ขายดีมาก ททท.พยายามร่วมกับพันธมิตรทำโครงการ “Zero Waste Camping” แทนที่การไปแคมปิ้งทั่วไป โดยเลือกนักท่องเที่ยวที่มีหัวใจสีเขียวร่วมเดินทางไปด้วยกัน
ผอ.ภัทรอนงค์ กล่าวเพิ่มถึงการทำตลาดนำเข้านักท่องเที่ยวต่างประเทศมายังภาคใต้ ททท.ได้นำผู้ประกอบการธุรกิจภาคใต้เดินทางไปทำโร้ดโชว์ เทรดโชว์ประเทศต่าง ๆ ได้แก่ 1.ออสเตรเลีย มีเอกชนไป 24 ราย ไปมาแล้วเมื่อเดือนพฤษภาคมทำให้ได้กลุ่มท่องเที่ยวสปาและสุขภาพองค์รวมหรือ Wellness & Spa กลับมาด้วย กลุ่มชื่นชอบทำศัลยกรรม มียอดจองทยอยเข้ามาเรื่อย ๆ ตอนนี้จะต้องรอจำนวนที่นั่งเที่ยวบินจากออสเตรเลียเข้าภูเก็ตด้วย
2.ตะวันออกกลาง ททท.นำเอกชนภูเก็ตไป 20 ราย เจาะตลาด ซาอุดิอาระเบีย 2 เมืองหลัก เจดาห์ กับริยาด สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 2 เมือง ในอาบูดาบี ดูไบ มีเอกชนไทยไปร่วมประมาณ 20 ราย ได้รับความสนใจมากพอสมควร มีนักท่องเที่ยวเพิ่มจากซาอุดิอาระเบียเริ่มเข้ามาภูเก็ตเพิ่มขึ้นทุกเดือน
3.อินเดีย ประมาณต้นเดือนสิงหาคม 2565 ผู้ประกอบการท่องเที่ยวภูเก็ตเตรียมไปโร้ดโชว์อย่างเข้มข้น
4.เกาหลีใต้ ททท.จะนำเอกชนไปในดือนกันยายน นี้ ขณะนี้อยู่ระหว่างรับสมัคร เตรียมแผนงานให้ครบตามขั้นตอน
ขณะที่ แผนกระตุ้น “ตลาดในประเทศ” ก็มีทำโร้ดโชว์ไปจับคู่เจรจาธุรกิจกับภาคอื่น ๆ เช่น ภูเก็ตช่วงกรกฎาคม นี้ ไปจังหวัดอุบลราชธานี เปิดพื้นที่จับคู่เจรจาธุรกิจ B2B :Business to Business และ B2C ขายตรงนำนักท่องเที่ยวเข้ามาได้เลย รวมทั้ง ททท.ได้ทำแคมเปญ “ยะลา นรา ตานี หรอยมั้ย-ดีมั้ย-น่าสนใจมั้ย” พร้อมจะให้นักท่องเที่ยวภาคอื่นๆ มาเที่ยวชมด้วยตัวเองตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza, www.facebook.com/penroongyaisamsaen