- หวั่นสูญเสียศูนย์กลางผลิตรถยนต์ไฟฟ้า
- รถยนต์ไฟฟ้านำเข้าจากจีน 0%
- รถยนต์จากค่ายอื่นๆ 40%
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ขณะนี้ได้รับเรื่องร้องเรียนจากสมาชิกส.อ.ท.ในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์เกี่ยวกับความไม่เป็นธรรมโครงสร้างภาษีรถยนต์ไฟฟ้า เนื่องจากมีรถยนต์ไฟฟ้าที่นำเข้าจากประเทศจีน นำเข้า 0 % เพราะรับสิทธิจากข้อตกลงการเจรจาการค้าเอฟทีเอ ( จีน-อาเซียน) ขณะที่หลายประเทศนำเข้าเสียภาษี 40% ถือว่ามีความแตกต่างกันมาก ดังนั้นจึงเตรียมที่จะนำเรื่องดังกล่าว หารือกระทรวงการคลังอีกครั้ง เพื่อหารือการปรับโครงสร้างภาษียานยนต์ไฟฟ้าอย่างจริงจังอีกครั้ง
“ถ้าภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าเป็น 0% แล้วจะทำอย่างไรให้นักลงทุนมาลงทุนในประเทศไทยได้ ดังนั้นรัฐบาลต้องทบทวนปรับโครงสร้างภาษีรถยนต์ไฟฟ้าใหม่ทั้งระบบ เพื่อรักษาการเป็นฐานการผลิตรถยนต์และรถยนต์ไฟฟ้าของอาเซียนไว้”
ทั้งนี้หากอัตราภาษียังคงเหลื่อมล้ำกันสูงมาก การจูงใจให้เกิดการลงทุนผลิตรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยยนต์ไฟฟ้าในอาเซียน อาจจะไม่เกิดขึ้นได้ จึงจำเป็นต้องหารือกัน และหาทางออกร่วมกัน เพื่อรักษาการเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ในอาเซียนต่อไป ส่วนจะเป็นรูปแบบใดนั้น ต้องรอหารือกระทรวงการคลังอีกครั้ง
สำหรับอัตราภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าแบบประกอบสำเร็จรูปและนำเข้ามาทั้งคัน ราคาขายปลีกแนะนำไม่เกิน 2 ล้านบาท ได้รับการลดภาษีนำเข้าสูงสุด 40 % ส่วนรถยนต์ไฟฟ้าแบบประกอบสำเร็จรูปและนำเข้ามาทั้งคัน ที่มีขนาดตั้งแต่ 30 กิโลวัตต์ขึ้นไป และราคาขายปลีกแนะนำเกิน 2 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 7 ล้านบาท จะได้รับการลดภาษีนำเข้าสูงสุดเหลือ 60%
