“จุรินทร์” รับรัฐมนตรีการค้า “เอเปก”ออกแถลงการณ์ร่วมไม่ได้



  • เหตุสมาชิกบางรายไม่ยอมรับเนื้อหาบางประเด็น
  • แต่ถือประชุมสำเร็จงดงามเหตุไทยผลักดันสมาชิกยอมรับตามข้อเสนอ
  • วงในเผย “รัสเซีย” ไม่ยอมให้บรรจุความขัดแย้งยูเครนในแถลงการณ์ร่วม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (22พ.ค.) เวลาประมาณ 15.00 น. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ แถลงผลการประชุมรัฐมนตรีการค้ากลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปก)  โดยระบุว่า การประชุมครั้งนี้ เป็นอีกครั้งหนึ่ง ที่ที่ประชุมไม่สามารถออกแถลงการณ์ร่วม (Joint Statement) ซึ่งเป็นผลสรุปของการประชุมได้ เพราะสมาชิกบางเขตเศรษฐกิจ ยังมีความเป็นขัดแย้งในบางประเด็น ทำให้ความเห็นไม่เป็นเอกฉันท์ จึงออกเป็นแถลงการณ์ของประธาน (Chairman Statement) คือ ประเทศไทยแทน คาดว่า จะสามารถออกแถลงการณ์ของประธานอย่างเป็นทางการได้เร็วที่สุดในวันนี้

“แถลงการณ์ร่วมจะเกิดขึ้นได้เมื่อทั้ง 21 เขตเศรษฐกิจมีความเห็นตรงกันทั้งหมด ที่เรียกว่าเป็นฉันทามติ ถ้ามีแม้เขตเศรษฐกิจใดเศรษฐกิจหนึ่งเห็นไม่สอดคล้อง ก็ไม่สามารถประกาศได้ ทุกเขตเศรษฐกิจเห็นพ้องกันให้มีแถลงการณ์ร่วม เพียงแต่มีเนื้อหาส่วนหนึ่งที่เห็นไม่สอดคล้องกัน บางเขตเศรษฐกิจเห็นไม่ตรงกัน ซึ่งเป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่ามีความเห็นไม่สอดคล้องกันในเรื่องสถานการณ์โลกในปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องระบุรายละเอียด และเป็นเรื่องภายใน ที่ไม่สามารถเปิดเผยได้”

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา มีหลายครั้งที่การประชุมเอเปก ไม่สามารถออกแถลงการณ์ร่วมกันของสมาชิกทุกเขตเศรษฐกิจได้ เช่น ปี 2017 ที่เวียดนามเป็นเจ้าภาพ, ปี 2018 ที่ปาปัว นิวกินี แต่การประชุมในปีต่อๆ มายังเกิดขึ้นได้ ทั้งในปี 2019 จนถึงปี 2022 อย่างไรก็ตาม แม้ไม่สามารถออกแถลงการณ์ร่วมได้ แต่จะไม่ทำให้ความร่วมมือของเอเปกสะดุด หรือไม่คืบหน้า สมาชิกทั้งหมด เห็นพ้องต้องกันที่จะยกระดับความร่วมมือของเอเปกไปเป็นการจัดทำความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ระหว่างกันเหมือนเดิม และตั้งเป้าหมายเจรจาให้เสร็จภายในปี 2040 (พ.ศ.2583) หรืออาจจะเร็วกว่านั้น

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การประชุมครั้งนี้ สมาชิกบางเขตเศรษฐกิจได้พูดถึงกรอบความร่วมมืออินโด-แปซิฟิก ที่สหรัฐฯพยายามนำเสนอ และได้เชิญชวนไทยให้เข้าร่วมการประกาศเจตนารมย์ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสในช่วงเดือนมิ.ย.นี้ รวมถึงญี่ปุ่นได้ชวนไทยเช่นกันนั้น จะทำให้บทบาทของเอเปกลดลงหรือไม่นั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ เป็นกรอบเอเปก ไม่ได้มีการพูดถึงกรอบความร่วมมืออินโด-แปซิฟิกแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า สาเหตุที่ทำให้การประชุมครั้งนี้ไม่สามารถออกแถลงการณ์ร่วมกันได้ เนื่องจากบางเขตเศรษฐกิจเสนอให้มีการบรรจุเรื่องความขัดแย้งกรณีสงครามรัสเซียและยูเครนเข้าไปในแถลงการณ์ด้วย แต่รัสเซียไม่เห็นด้วย เพราะมองว่า ไม่เกี่ยวข้องกับเวทีการประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปก จึงทำให้ความเห็นไม่เป็นเอกฉันท์

อย่างไรก็ตาม นายจุรินทร์ กล่าวว่า ผลการประชุมเอเปกที่ไทยเป็นเจ้าภาพวันนี้ ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างงดงาม เพราะหัวข้อหลักที่ไทยกำหนดไว้ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง “Open Connect Balance”เป็นไปตามเป้าหมาย และบรรลุผลเป็นรูปธรรม โดยในเรื่อง Open คือการเปิดกว้างและเปิดเสรีทางการค้าระหว่างกัน ทุกเขตเศรษฐกิจเห็นร่วมกันคือการที่เราจะนำเอเปไปสู่การจัดทำเอฟทีเอ

สำหรับ Connect หรือการเชื่อมโยงเขตเศรษฐกิจทั้งในส่วนของบุคคลหรือสินค้าและบริการ ได้ตั้งคณะทำงานที่เรียกว่า APEC Safe Passage Task Force เพื่อดำเนินการในเรื่องนี้ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม และ Balance หรือสร้างสมดุล มีความเห็นที่ตรงกันในทุกเขตเศรษฐกิจให้มุ่งเน้นการสร้างสมดุลในด้านสิ่งแวดล้อม พลังงานและการมีส่วนร่วมของทุกฝ่ายทุกระดับ ตั้งแต่คนตัวใหญ่จนกระทั่งถึงคนตัวเล็ก เแรงงาน ผู้ด้อยโอกาส กลุ่มเปราะบาง สตรีและอื่นๆ

นอกจากนั้นสัญญาณอีกข้อที่สะท้อนความสำเร็จของไทยคือ การที่ทุกเขตเศรษฐกิจได้ยอมรับและสนับสนุน BCG Model (เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน เศรษฐกิจสีเขียว) ของไทย ให้เป็นวิสัยทัศน์สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของเอเปกในอนาคต