- นักลงทุนกังวลเศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย หลังเครื่องชี้เศรษฐกิจชะลอลง
- มีแรงเทขายหุ้นออกมาอีกรอบ หลังผลประกอบการค้าปลีกทยอยออมาต่ำกว่าคาด
- ตลาดกังวลตลาดแรงงานเริ่มชะลอการฟื้นตัว ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกกลับมาเพิ่มขึ้น 21,000 ราย
เมื่อเวลาประมาณ 21.55 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เคลื่อนไหวที่ระดับ 31,123.74 จุด ลดลง
366.33 จุด หรือ -1.16% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 11,403.08 จุด ลดลง 15.07 จุด หรือ -0.13% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500เคลื่อนไหวที่ระดับ 3,889.87 จุด ลดลง 33.81 จุด หรือ -0.86%
หลังจากที่ดัชนีดาวโจนน์ดิ่งลงกว่า 1,000 จุด ในวันก่อนหน้า ยังมีแรงเทขายหุ้นออกมาต่อเนื่อง หลังนักลงทุนไม่มั่นใจการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และมองว่าอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นจะกระทบกำไรในภาคค้าปลีก ขณะที่อัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มสูงขึ้นกระทบต้นทุนและกำไรของบริษัทจดทะเบียน
วันนี้ บริษัทโคห์ลส์ คอร์ป ซึ่งเป็นห้างค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐ เปิดเผยกำไรในไตรมาสแรกต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยโคห์ลส์ ยังได้ปรับลดคาดการณ์กำไรในปีนี้ สู่ระดับ 6.45-6.85 ดอลลาร์/หุ้น จากเดิมคาดการณ์ที่ระดับ 7.00-7.50 ดอลลาร์/หุ้น และคาดว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้น 0-1% ในปีนี้ จากเดิมคาดว่าเพิ่มขึ้น 2-3%
การเปิดเผยผลประกอบการของโคห์ลส์ในวันนี้ สอดคล้องกับผลประกอบการที่น่าผิดหวังของทาร์เก็ต, โลว์ส และวอลมาร์ทก่อนหน้านี้ และเป็นการตอกย้ำว่าภาวะเงินเฟ้อได้เริ่มส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน โดยเฉพาะธุรกิจค้าปลีก
ตลาดวิตกเพิ่มขึ้นว่า การที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วและแรง จะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย หลังจากหดตัวลง 1.4% ในไตรมาส 1/65 ขณะที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ยืนยันว่า เฟดไม่ลังเลที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสูงสุด หากมีความจำเป็นเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า ขณะนี้นักลงทุนให้น้ำหนัก 100% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 0.50% ในการประชุมนโยบายการเงินอีก 2 ครั้ง ทั้งในเดือนมิ.ย.และก.ค.
ขณะเดียวกัน ตัวเลขคนว่างงานที่ประกาศออกมาสูงกว่าคาดในวันนี้ เป็นอีกปัจจับลบที่ทำให้ตลาดกังวลการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ มากขึ้น โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 21,000 ราย สู่ระดับ 218,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 200,000 ราย
อย่างไรก็ตาม จำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่อง ลดลง 25,000 ราย สู่ระดับ 1.317 ล้านราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2512
