เดินทางทุกครั้ง…นึกถึง “MRS.WRAP” ตัวช่วยดูแลกระเป๋าไร้ริ้วรอย

ในช่วง 2 ปีกว่าที่ผ่านมา ประเทศไทยผ่านพ้นช่วงวิกฤตการณ์ การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส “โควิด-19” มาหลายระลอก หลายสายพันธุ์ ประสบเจอทั้งช่วงที่วิกฤตหนัก เตียงผู้ป่วยม่เพียงพอ วัคซีนกระจายไม่ทั่วถึง ยารักษาไม่พอสำหรับผู้ป่วย

กระทั่งมาถึงวันนี้…วันที่พวกเราปรับตัว และเรียนรู้ที่จะอยู่กับเชื้อร้ายดังกล่าว มีการฉีดวัคซีนป้องกันตนเอง 

รวมถึงเริ่มได้ออกมาใช้ชีวิตในแบบวิถีใหม่ ทำงาน พักผ่อน ท่องเที่ยว กันได้แล้ว หลังภาครัฐได้ผ่อนคลายมาตรการควบคุมอย่างมาก เพื่อรักษาความสมดุลระหว่างด้านสาธารณสุข ควบคู่กับการบริหารด้านเศรษฐกิจของประเทศ

อย่างไรก็ตาม ที่เห็นการเริ่มฟื้นตัวที่ดีคือ บรรยากาศการเดินทางตามท่าอากาศยาน (สนามบิน) ที่เริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังภาครัฐผ่อนคลายมาตรการในเดินการควบคุมการเดินทางเข้าประเทศ รวมถึงการดำเนินนโยบายเปิดประเทศอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 1 พ.ค.65 ที่ผ่านมา โดยตั้งแต่ผ่านช่วงสงกรานต์มา มีผู้โดยสารเดินทางเป็นจำนวนมาก ทั้งขาเข้า-ขาออก 

วันนี้ทีมข่าว The Journalist Club ขอนำเสนออีกหนึ่งธุรกิจ ที่จะมาช่วยตอบโจทย์เหล่านักเดินทาง ซึ่งเชื่อว่าตอนนี้หลายคนคงเตรียมวางแผนเดินทางท่องเที่ยวกันเป็นแน่ หลังอัดอั้นมานานจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 

โดยธุรกิจนั้นได้แก่ ธุรกิจการห่อหุ้มกระเป๋าและพัสดุ (แรปกระเป๋า) กับ “MRS.WRAP” (มิสซิสแรป) 

งานนี้ ทีมข่าว The Journalist Club ได้ไปเจอคลิปวิดีโอของ : Channel Inspiring Jay 

 ที่ได้รีวิวถึง “MRS.WRAP” ไว้ได้อย่างน่าสนใจ จึงขอหยิบยกมาบอกต่อ

แน่นอนการเดินทาง ก็ต้องมีการขนสัมภาระในการเดินทาง ทั้งเสื้อผ้า ข้าวของต่างๆ โดยใช้กระเป๋าเดินทางเป็นตัวช่วย แต่สำหรับคนที่ใส่ใจทุกรายละเอียด ก็คงไม่อยากให้กระเป๋าเดินทางใบโปรดเป็นริ้วรอย เกิดรอยขีดข่วน 

ทางออกที่จะแก้ปัญหานี้ได้คือ… “การแรปกระเป๋า” โดยนอกจากกระเป๋าแล้ว ยังมีการแรปพัสดุชิ้นใหญ่ๆ กล่องขนาดใหญ่ๆ อีกด้วย 

ทั้งนี้ในคลิปวิดีโอดังกล่าว ได้นำเสนอบริการแรปกระเป๋าเดินทาง และพัสดุต่างๆ ของ “MRS.WRAP” ที่เปิดให้บริการอยู่ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริเวณประตู 6 ชั้น 4 โดยราคาค่าบริการแรปกระเป๋า และพัสดุทุกขนาด อยู่ที่ราคา 200 บาท/ชิ้น

สำหรับขั้นตอนการให้บริการ เริ่มที่การแรปชั้นที่ 1 โดยใช้ฟิล์มสีใส ยืดหยุ่นสูง (Stretch Flim) โดยมีคุณสมบัติในเรื่องการช่วยป้องกันกลิ่นไม่พึงประสงค์ ป้องกันความเปือกชื้น ป้องกันน้ำ ฝุ่น โคลน ลดโอกาสการโจรกรรมทรัพย์สินในกระเป๋าได้ 

ทั้งนี้สำหรับกระเป๋าที่มีล้อ ทางร้านก็จะทำการกรีดเปิดช่องช่วงล้อให้สามารถใช้งานเคลื่อนที่ได้ปกติ โดยการแรปฟิล์ม จะทำการแรปกระเป๋าทั้งในด้านแนวตั้งและแนวนอน จึงมั่นใจได้ในการป้องกัน 

เสร็จจากการแรปชั้นที่  1 ก็ตามมาด้วยการแรปชั้นที่ 2 กับแผ่นพลาสติกสีเหลือง ที่มีคุณสมบัติช่วยให้กระเป๋าลื่นดี HD-A Sheet โดยเป็นฟิล์มที่จะช่วยให้กระเป๋าหรือพัสดุลื่นไหลเคลื่อนที่ได้ดี ในยามที่อยู่บนสานพานนำส่งกระเป๋าของสนามบิน 

โดยขั้นตอนต่อไปทางพนักงานก็จะทำการกรีดเปิดช่องในส่วนของหูลากและหูหิ้วไว้ฝห้ลูกค้ายกกระเป๋าได้สะดวก อีกทั้งทางร้าน MRS.WRAP ยังมีใบมีดแถมให้ลูกค้า ไปไว้ใช้กรีดฟิล์มแรปออกในเวลาที่เดินทางไปถึงจุดหมายปลายทาง

นอกจากนี้ MRS.WRAP ยังมีบริการจำหน่ายกล่องกระดาษ ไว้ให้บริการกรณีที่ลูกค้ามีของล้นเกินจากที่กระเป๋าจะจัดใส่ไปได้ หรือเกินน้ำหนักที่ซื้อไว้ โดยมีขนาดกล่องให้เลือก 3 ขนาด ประกอบด้วย ขนาด S ราคา 100 บาท ขนาด M ราคา 150 บาท และขนาด L ราคา 200 บาท

ทั้งนี้ในคลิปวิดีโอ ยังมีการทดสอบประสิทธิภาพของชั้นฟิล์มแรปกระเป๋า โดยมีการนำกุญแจมากรีด ผลที่เกิดคือมีแค่รอยที่เกิดจากการกรีดเล็กน้อย แต่ตัวฟิล์มไม่ฉีกขาดแต่อย่างใด 

จากนั้นก็ทำการทดสอบต่อ โดยการใช้มือทำการฉีกและดึงฟิล์มที่แรปกระเป๋า ผลปรากฎว่าฟิล์มที่แรปไว้ก็ไม่ฉีกขาดแต่อย่างใด เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีการนำกระเป่าไปถูไถกับพื้น เพื่อทดสอบถึงความลื่นไหล ผลปรากฎคือตัวกระเป่าลื่นไหลได้ดี 

ทั้งนี้ทางร้าน MRS.WRAP ยังใช้เทปใสปิดบริเวณแนวซิปของกระเป๋าให้อีกด้วย เพื่อป้องกันการกรีดโจรกรรมของในกระเป๋า โดยในจุดนี้ก็มีการทดสอบด้วยการใช้กุญแจกรีดและแทงไปบริเวณแนวซิปที่ติดเทปฟิล์มไว้ ผลทดสอบก็ไม่สามารถทำให้เทปฉีดขาดได้ 

นอกจากนี้แล้ว ยังมีการทดลองโดยการใช้สเปร์ยแอลกอฮอล์ 70% ฉีดไปที่ตัวฟิล์ม ผลคือตัวฟิล์มก็ยังคงปกติ ไม่มีการย่น หรือละลายแต่อย่างใด 

นอกจากการแรปกระเป๋าแล้ว ทาง MRS.WRAP ยังมีบริการเครื่องชั่งน้ำหนักกระเป๋า โดยมีค่าบริการ 10 บาท/ต่อครั้ง โดยก่อนจะไปทำการโหลดกระเป๋า ก็สามารถแวะมาเช็คน้ำหนักกระเป๋าเดินทางเพื่อเช็คความชัวร์กันก่อนได้

สำหรับในด้านการชำระค่าบริการ MRS.WRAP ก็รู้ใจลูกค้ายุคดิจิทัล โดยเปิดรับชำระค่าบริการที่หลากหลายทั้งแบบเงินสด บัตรเครดิต หรือจะโอนผ่าน QR Code, Alipay, พร้อมเพย์, WeChat Pay และอื่นๆ ก็มีไว้ให้บริการอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าแบบเต็มที่

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน MRS.WRAP มีให้บริการที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยตั้งอยู่ที่บริเวณชั้น 4 อาคารผู้โดยสารขาออก ประกอบด้วยบริเวณประตู 9 มี 1 จุด จากนั้นถัดมาที่ประตู 8 มีให้บริการ 2 จุด บริเวณประตู 7 มี 2 จุด รวมถึงที่ประตู 6 ก็มีอีก 1 จุด 

นอกจากนั้นก็มีที่ประตู 4 อีก 1 จุด รวมถึงมีบริการที่บริเวณประตู 3 อีก 1 จุด โดยที่ประตู 3 นี้ ถือเป็นทำเลทอง เพราะมีลูกค้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก รวมถึงมีอีกแห่งบริเวณประตู 2 อีก 1 จุด

งานนี้ใครที่อยากได้ข้อมูลเพิ่มเติม ก็สามารถติดต่อไปที่ อินสตาแกรม : mrs.wrap luggage และทางเพจเฟซบุ๊ก : MRS.WRAP 

นอกจากนี้ทาง MRS.WRAP ยังแอบกระซิบบอกด้วยว่าในช่วงเดือน มิ.ย.65 นี้ ลูกค้าที่มาใช้บริการแรปกระเป๋า 2 ชิ้นขึ้นไป และกดถูกใจเพจ MRS.WRAP รับฟรี!! ทันทีสเปร์ยแอลกอฮอล์ 1 ชิ้น นอกจากนี้ล่าสุด MRS.WRAP ยังขยายการให้บริการเพิ่ม โดยเปิดสาขาเพิ่มที่ท่าอากาศยานภูเก็ตอีกด้วย

ขอบคุณข้อมูล : Channel Inspiring Jay