“สุชาติ”ปรับแน่ค่าจ้างขั้นต่ำ แต่ไม่ใช่ 492 บาท ยันไม่เข้าข้างนายจ้างแต่ต้องสร้างสมดุล



  • ระบุใช้สูตร “ค่าจ้าง-เงินเฟ้อ – ค่าครองชีพ”
  • เป็นสูตรคำนวณมาตรฐานทั่วโลก
  • เอาค่าครองชีพของแต่ละพื้นที่มาคำนวณ

เมื่อวันที่ 1 พ.ค.2565 ที่กระทรวงแรงงาน นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน แถลงข่าวภายหลังการจัดงานวันแรงงานแห่งชาติ โดยตอบข้อซักถามสื่อมวลชนถึงข้อเรียกร้องในการปรับค่าจ้างขั้นต่ำ เท่ากันทั้งประเทศอัตรา 492 บาท ว่า การปรับค่าจ้างขั้นต่ำมีปลัดกระทรวง เป็นประธาน ซึ่งให้มีการพิจารณาประกอบการทั้งภาวะเงินเฟ้อ ค่าครองชีพ และอัตราค่าแรงในปัจจุบัน ซึ่งแต่ละพื้นที่แตกต่างกัน กรณีที่เสนอให้ปรับ 492 บาทเท่ากันทั้งประเทศนั้นเป็นการคิดแบบตรรกะที่ตนไม่เข้าใจ เพราะสมมุติเช่าบ้านอยู่ลำปาง 2,000 บาม ค่าเช่าที่ชลบุรี กทม. ก็อีกราคาหนึ่ง ซึ่งแตกต่างกัน ฉะนั้นจะต้องเอาค่าครองชีพของแต่ละพื้นที่มาคำนวณ

นายสุชาติ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ตนเองก็เคยเป็นลูกจ้างอยู่ในมาตรา 33 มาก่อนเข้าใจทุกอย่าง แต่ข้อเรียกร้องนั้นบางครั้งตนจะต้องสร้างสมดุลทั้งสองฝ่าย หยิน หยางต้องสมดุล การระบาดของ covid 2 ปีที่ผ่านมาถามว่านายจ้างบาดเจ็บเท่าไหร่ เจ็บจนไม่รู้ว่าจะเอาเงินที่ไหนมาประคอง ถ้าจะขึ้นเงินเดือนจริง ๆ 48 เปอร์เซ็นต์ ไหวหรือไม่ เพราะฉะนั้นต้องเอาค่าแรงขั้นต่ำ ค่าครองชีพ ภาวะเงินเฟ้อมาเป็นตัวพิจารณาประกอบกัน ซึ่งมาตรฐานทั่วโลกใช้สูตรนี้หมด

อย่างไรก็ตามตนอธิบายตลอดว่าอยู่แล้ว แต่ปรับเท่าไหร่ให้นายจ้างอยู่ได้ ลูกจ้างพอไปได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ถามตนที่มาเรียกร้องที่มาหาตนว่าเขาได้ค่าแรงเท่าไหร่ พบว่าได้ค่าแรงมากกว่าค่าแรงขั้นต่ำหลายเท่า จริง ๆ เขาก็กลัวว่าการปรับฐานค่าจ้างแล้วจะกระทบไปหมดเป็นลูกโซ่ วันนี้แรงงานไทยมีทักษะฝีมือไม่มีใครไปทำงานกรรมกรก่อสร้างค่าแรงขั้นต่ำ

“วันนี้ต้องยอมรับว่าพี่น้องเราทำงานในออฟฟิศ เราก็ไม่ได้นิ่งนอนใจในการปรับตามข้อเสนอของหลาย ๆ ท่านเพราะมองว่าค่าครองชีพและภาวะเงินเฟ้อเพิ่มเข้ามาจากกรณีสงครามรัสเซียยูเครนด้วย เราไม่ได้นิ่งนอนใจ เราต้องให้ความเป็นธรรม หลายคนกลัวว่าเราจะเข้าข้างนายจ้าง ซึ่งมันไม่ใช่ เพราะถ้านายจ้างอยู่ไม่ได้ปิดกิจการไปไปจะเอาเงินจากตรงไหนไปจ่าย เงินกองทุนว่างงานของประกันสังคมเพียงพอหรือไม่ เพราะฉะนั้นวันนี้ต้องไปให้ได้ถ้าทุกคนอยู่ได้ ขออย่าใช้อารมณ์ ให้ใช้หลักการความเป็นจริง”