“อาคม”​เคาะแผนพัฒนาตลาดทุนไทย ฉบับที่ 4 เน้นให้ผู้ประกอบการเข้าถึงแหล่งทุน



  • เป็นที่พึ่งผู้ประกอบการระดมทุน ให้เข้าถึงแหล่งทุน
  • เพิ่มขีดความสามารถเสริมศักยภาพตลาดทุน
  • ย้ำภาษีขายหุ้น ยังอยู่ระหว่างพิจารณารายละเอียด

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยภายหลังการเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการตลาดทุนไทยว่า ที่ประชุมเห็นชอบแผนพัฒนาตลาดทุนไทย ฉบับที่4 (ปี 2565 – 2570) ภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ 5 ข้อ ได้แก่ 1.กาสร้างความสามารถการแข่งขันของตลาดทุนไทย  เพื่อให้ผู้ประกอบการเข้าถึงแหล่งทุน โดยเฉพาะรายย่อย พึ่งพาตลาดทุนเพิ่มมากขึ้น จากปัจจุบันพึ่งพาสถาบันการเงินหรือธนาคาร 2.การเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันของตลาดทุนไทย 3.การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลสำหรับตลาดทุน  4. การสร้างความยั่งยืนตลาดทุน  5.การสร้างสุขภาพทางการเงินที่ดีในระยะยาวครอบคลุมถึงวัยเกษียณ  

“ที่ประชุมได้มอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.)​ สำนักงานสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)​และ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)​ไปพิจารณาจัดทำรายละเอียดแผนงานเพื่อนำมาเสนอที่ประชุมอีกครั้งในอีก 1 เดือนข้างหน้า”  

นายอาคม กล่าวต่อว่า  ส่วนการจัดเก็บภาษีขายหุ้นนั้น ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียด และความเหมาะสมในวันเวลาที่จะประกาศการจัดเก็บภาษีขายหุ้น ซึ่่งตามกฎหมายได้ประกาศให้จัดเก็บในอัตรา 0.1% ของมูลค่าการขาย ทั้งนี้ประเทศไทยได้ยกเว้นการจัดเก็บภาษีขายหุ้นมาเป็นเวลา 30 ปีที่ผ่านมา เพื่อให้ตลาดทุนไทยมีความแข็งแกร่ง   

“ช่วงโควิดปี 2563-2564 ทุกธุรกิจได้รับผลกระทบ เช่นเดียวกับตลาดหุ้น ตอนโควิดแพร่ระบาดช่วงแรก ดัชนหุ้นไทยก็ร่วง แต่ขณะนี้ก็ดีขึ้นเรื่อยๆ  ถึงแม้มูลค่าตลาด (มาร์เก็ตแคป)​จะมีมูลค่า 1.24 เท่าของผลิตภัณฑ์มวลในประเทศ(จีดีพี)​ แต่ก็ยังถือว่าต่ำกว่าเป้าหมาย ซึ่งเป็นได้รับผลกระทบทั่วโลก และยังมีวิกฤตสงครามยูเครน-รัสเซียอีก แต่เชื่อตลาดหุ้นทั่วโลก กำลังทยอยปรับตัวดีขึ้น ตามทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ”

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า ในเร็วๆนี้จะหารือกับรมว.คลัง เกี่ยวกับภาษีขายหุ้นอีกครั้ง เพื่อรับนโยบายการนำไปสู่การปฎิบัติการจัดเก็บภาษีหุ้นอีกครั้ง