กสิกรไทย ประเมินกรอบเงินบาทสัปดาห์หน้า 33.70-34.20 บาท/ดอลลาร์

ค่าเงิน หุ้นกู้


  • ประเมินปัจจัยที่ต้องติดตาม สถานการณ์ยูเครน-รัสเซีย ทิศทางเงินทุนต่างชาติ
  • แรงซื้อเงินดอลลาร์ หลังการจ่ายปันผลของ บจ. ผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ธนาคารกสิกรไทย ได้ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในสัปดาห์หน้า (25-29 เม.ย.65) ไว้ที่ 33.70-34.20 บาท/ดอลลาร์ โดยช่วงปลายสัปดาห์เงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบกว่า 4 เดือนที่ 33.95 บาท/ดอลลาร์ เงินบาทยังคงอ่อนค่าสอดคล้องกับทิศทางของสกุลเงินส่วนใหญ่ในเอเชีย นำโดยเงินหยวนที่อ่อนค่าสุดในรอบ 7 เดือนจากความกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจจีน และเงินเยนที่ร่วงลงแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 20 ปี ทั้งนี้ระหว่างสัปดาห์ท่ามกลางความแตกต่างระหว่างแนวโน้มนโยบายการเงินของญี่ปุ่นและสหรัฐฯ 

ขณะที่เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นรับการคาดการณ์ถึงโอกาสของการขึ้นดอกเบี้ยแบบแข็งกร้าวของเฟดเพื่อสกัดเงินเฟ้อสหรัฐฯ นอกจากนี้เงินบาทยังมีปัจจัยลบเพิ่มเติมระหว่างสัปดาห์จากแรงขายของต่างชาติในตลาดพันธบัตรไทย

ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สถานการณ์ยูเครน-รัสเซีย ทิศทางเงินทุนต่างชาติแรงซื้อเงินดอลลาร์ หลังการจ่ายปันผลของ บจ. และผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น 

ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ คำสั่งซื้อสินค้าคงทน ยอดขายบ้านใหม่ ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย รายได้/รายจ่ายส่วนบุคคล และอัตราเงินเฟ้อที่วัดจากดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE Price Index) เดือนมี.ค. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย. จีดีพีไตรมาส 1/65 และตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน

ในวันศุกร์ (22 เม.ย.65) เงินบาทปิดตลาดที่ 33.93 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับระดับ 33.65 บาท/ดอลลาร์ในวันอังคารก่อนหน้า (12 เม.ย.) ขณะที่ระหว่างวันที่ 18-22 เม.ย. นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทย 3,292.46 ล้านบาท แต่มีสถานะเป็น NET OUTFLOW ในตลาดพันธบัตร 11,686 ล้านบาท มาจากการขายสุทธิพันธบัตร 4,167 ล้านบาท และตราสารหนี้หมดอายุ 7,519 ล้านบาท